คลิปเหตุการณ์ขณะที่ชายฉกรรจ์กลุ่มหนึ่งรวมตัวกันอยู่ภายในสุสานของ อดีตประธานาธิบดี ฮาเฟซ อัล-อัสซาด บิดาของ บาชาร์ อัล-อัสซาด ในเมืองอัลคาร์ดาฮาห์ บ้านเกิดที่จังหวัดลาตาเกีย ทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศ
จากคลิปจะเห็นว่า สุสานอยู่ในสภาพถูกไฟเผาไหม้จนเสียหาย สอดคล้องกับรายงานของกลุ่มสังเกตการณ์สิทธิมนุษยชนซีเรียหรือเอสโอเอชอาร์ (Syrian Observatory for Human Rights -SOHR) ที่ระบุว่า กลุ่มมือปืนบุกเข้ามาจุดไฟเผาสุสานเมื่อคืนที่ผ่านมา
ทั้งนี้ รัฐบาลซีเรียภายใต้การบริหารงานของตระกูลอัสซาด ที่กุมอำนาจมายาวนานกว่า 50 ปี มีการใช้อำนาจควบคุม กดขี่ และปราบปรามประชาชนอย่างเข้มข้นมากที่สุดประเทศหนึ่งในภูมิภาคตะวันออกกลาง
โดยอัสซาด ผู้พ่อ เข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีตั้งแต่ปี 1971 โดยเป็นประธานาธิบดีคนที่ 18 ของประเทศ และอยู่ในอำนาจจนกระทั่งเสียชีวิตในปี 2000 จากนั้น ลูกชาย บาชาร์ อัล-อัสซาด จึงขึ้นมารับตำแหน่งต่อ
รู้จักโครงการ “คุณสู้ เราช่วย” พัก-ยกเว้น ดอกเบี้ย 3 ปี ครอบคลุมลูกหนี้ 1.9 ล้านราย
ภรรยา “สจ.โต้ง” รับศพสามี เผยไม่รู้ปมขัดแย้ง-วันเกิดเหตุรู้แค่ไปธุระ!
ปธน.เกาหลีใต้แถลงยืนยัน กฎอัยการศึกเป็นการปกป้องประเทศและประชาธิปไตย
ขณะเดียวกัน มีรายงานว่า นาย อาบู โมฮัมหมัด อัล-โจลานี ผู้นำกลุ่มติดอาวุธ ฮายัต ตาห์รีร์ อัล-ชาม (Hayat Tahrir al-Sham) หรือ HTS ที่เป็นแกนนำของพันธมิตรกลุ่มกบฏ ประกาศคิดบัญชีใครก็ตามที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการทรมานหรือสังหารผู้ถูกคุมขังในช่วงที่อัสซาดเรืองอำนาจ โดยจะไม่มีการอภัยโทษให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเป็นอันขาด
แถลงการณ์ ระบุว่า เราจะไล่ล่าตัวคนพวกนี้ที่ยังอยู่ในแผ่นดินซีเรีย ส่วนคนที่หลบหนีไปแล้ว เราจะขอให้ประเทศต่างๆ ส่งตัวกลับมาให้
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีขึ้นไม่นาน หลังจากมีการตั้งนายกรัฐมนตรีและรัฐบาลชั่วคราว เพื่อดูแลการเปลี่ยนผ่านอำนาจจากยุคของอัสซาด ซึ่งทั่วโลกยังคงจับตาอย่างใกล้ชิดว่า รัฐบาลชุดใหม่จะทำให้ประเทศมีเสถียรภาพมากขึ้น และจะสามารถรักษาสมดุลระหว่างการคืนความยุติธรรมให้เหยื่อจากการกดขี่ โดยที่ไม่ทำให้เกิดความรุนแรงเพิ่มเติม เพื่อไม่ให้กระทบกับความช่วยเหลือนานาชาติที่จะเข้าไปในพื้นที่ได้หรือไม่
ส่วนความเคลื่อนไหวของอิสราเอล ล่าสุด กองกำลังป้องกันอิสราเอล หรือ IDF เปิดเผยว่านับตั้งแต่การล่มสลายของรัฐบาลอัสซาด เมื่อวันอาทิตย์ กองทัพอากาศได้โจมตีเป้าหมายในซีเรียไปแล้ว 480 ครั้ง และได้ทำลายขีดความสามารถด้านการทหารของกองทัพซีเรียไปแล้วประมาณ 70 ถึง 80 เปอร์เซ็นต์ ท่ามกลางการกล่าวหาของ นาย อยาตอลเลาะห์ อาลี คาเมเนอี ผู้นำสูงสุดของอิหร่าน ที่เชื่อว่า อิสราเอลและสหรัฐฯ ร่วมมือกันโค่นล้มอัสซาด
แต่ทางอิหร่านยืนยันว่า สถานการณ์ในซีเรียจะไม่ส่งผลกระทบต่อเครือข่ายพันธมิตรติดอาวุธของอิหร่านในภูมิภาค ทั้งกลุ่มฮามาสในฉนวนกาซ่า ฮูตีในเยเมน และฮิซบอลเลาะห์ในเลบานอน