ชาวอเมริกันตระหนก “โดรนปริศนา” บินเหนือน่านฟ้าสหรัฐฯ ต่อเนื่องนับเดือน

ช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา หลายรัฐในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของสหรัฐฯ รายงานพบวัตถุบินลึกลับบินอยู่เหนือท้องฟ้าหลายครั้ง สร้างความกังวลและความสับสนให้กับประชาชน จนเกิดกระแสการเรียกร้องให้กองทัพเข้าแทรกแซง

วัตถุบินเหล่านี้ซึ่งคาดว่าเป็นโดรนถูกพบเห็นทั้งเหนือย่านที่อยู่อาศัย สถานที่ต้องห้าม และโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญ แรงกดดันอย่างหนักต่อหน่วยงานของรัฐบาลกลางในการหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวัตถุดังกล่าว รวมถึงคำถามสำคัญว่านี่เป็นฝีมือใคร

Reuters/PAUL GERKE

สำนักงานสอบสวนกลางสหรัฐฯ (FBI) และกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิสหรัฐฯ (DHS) กล่าวว่า พวกเขาเชื่อว่า การพบเห็นวัตถุบินลึกลับส่วนใหญ่เป็นกรณีของ “การเข้าใจผิด” โดยประชาชนทั่วไปอาจระบุเครื่องบินขนาดเล็กที่มีคนขับอย่างถูกต้องตามกฎหมายว่าเป็นโดรนลึกลับ

FBI และ DHS ออกแถลงการณ์ร่วมกันเมื่อวันที่ 12 ธ.ค. ว่า “ในเวลานี้ยังไม่มีหลักฐานว่าการพบเห็นโดรนดังกล่าวก่อให้เกิดภัยคุกคามต่อความมั่นคงของชาติหรือความปลอดภัยสาธารณะ หรือเกี่ยวข้องกับต่างประเทศ”

เช็กชื่อ 12 จนท.รัฐ โดน ป.ป.ช.ไต่สวน ปม “ทักษิณ” ชั้น 14

เงินชาวนาไร่ละ 1000 บาท เช็กวันโอนเงินเข้าบัญชี กลุ่มแรก

วันหยุดปีใหม่ 2568 เพิ่มวันหยุดพิเศษ วางแผนหยุดยาว 5 วันรวด

มีรายงานการพบเห็นโดรนในอย่างน้อย 6 รัฐ ได้แก่ นิวเจอร์ซี นิวยอร์ก คอนเนตทิคัต เพนซิลเวเนีย เวอร์จิเนีย และโอไฮโอ ขณะที่มีการจับกุมผู้ต้องสงสัยในข้อหาปฏิบัติการโดรนใกล้พื้นที่จำกัดในแมสซาชูเซตส์และแคลิฟอร์เนีย

การพบเห็นดังกล่าวเริ่มขึ้นครั้งแรกเมื่อวันที่ 18 พ.ย. ใกล้กับมอร์ริสเคาน์ตี รัฐนิวเจอร์ซี ตามรายงานขององต์การการบินแห่งชาติสหรัฐฯ (FAA) จากนั้นมีผู้พบเห็นโดรนทุกคืนนับตั้งแต่นั้นมา ประชาชนที่หวาดกลัวมักรายงานว่าเห็นโดรนบินวนเวียนอยู่เหนือศีรษะ บางครั้งก็บินเป็นกลุ่ม

ตัวแทนจากหน่วยงานของรัฐบาลกลางที่ทำการสอบสวนการพบเห็นได้ให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ โดยระบุว่าโดรนที่เป็นไปได้บางครั้งดูเหมือนจะบินในรูปแบบที่ประสานงานกันและสามารถบินได้นานถึง 6 ชั่วโมง

เจ้าหน้าที่ได้เรียกร้องให้ทุกคนสงบสติอารมณ์ และเน้นย้ำว่า ไม่มีหลักฐานใดที่บ่งชี้ว่าโดรนดังกล่าวเป็นภัยคุกคามต่อความปลอดภัย

จอห์น เคอร์บี โฆษกด้านความมั่นคงแห่งชาติของทำเนียบขาว กล่าวเมื่อวันที่ 16 ธ.ค. ว่า รัฐบาลไม่ได้ระบุ “สิ่งผิดปกติใด ๆ หรือความเสี่ยงต่อความมั่นคงของชาติหรือความปลอดภัยสาธารณะใด ๆ เหนือน่านฟ้าพลเรือนในนิวเจอร์ซีหรือรัฐอื่น ๆ ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ”

เคอร์บีบอกว่า “เราประเมินว่า การพบเห็นจนถึงปัจจุบันเป็นโดรนเชิงพาณิชย์ที่ถูกกฎหมาย โดรนสำหรับงานอดิเรก และโดรนของหน่วยงานบังคับใช้กฎหมาย รวมถึงเครื่องบินปีกตรึงที่มีคนขับ เฮลิคอปเตอร์ และแม้แต่ยานอวกาศที่รายงานผิดพลาดว่าเป็นโดรน”

ตามคำกล่าวของแหล่งข่าวเจ้าหน้าที่กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ 3 รายเมื่อวันที่ 16 ธ.ค. สหรัฐฯ กำลังส่งระบบตรวจจับและติดตามโดรนไปยังฐานทัพทหาร 2 แห่งในนิวเจอร์ซีย์

ระบบดังกล่าวอยู่ระหว่างการเคลื่อนย้ายไปยัง Picatinny Arsenal ซึ่งเป็นศูนย์วิจัยทางทหารของสหรัฐฯ ทางตอนเหนือของนิวเจอร์ซีย์ และ Naval Weapons Station Earle ในนิวเจอร์ซีย์ตอนกลาง

เจ้าหน้าที่ทหารและสมาชิกรัฐสภาของรัฐระบุว่า เจ้าหน้าที่ได้พบเห็นโดรนใกล้กับ Picatinny Arsenal และเหนือสนามกอล์ฟของว่าที่ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ในเมืองเบดมินสเตอร์ การพบเห็นดังกล่าวทำให้องค์การบริหารการบินแห่งชาติสหรัฐฯ (FAA) ออกข้อจำกัดการบินชั่วคราวเหนือพื้นที่ดังกล่าว

มีรายงานว่า “โดรนที่ไม่ทราบชนิดหลายลำบินเข้ามาในน่านฟ้า” เหนือ Naval Weapons Station Earle ซึ่งเป็นฐานทัพเรือของสหรัฐฯ ทางใต้ของมิดเดิลทาวน์ แม้ว่าจะไม่พบภัยคุกคามโดยตรงก็ตาม

หลายสัปดาห์ที่ผ่านมา กิจกรรมของโดรนหรือวัตถุบินลึกลับได้ทำให้สนามบินอย่างน้อย 1 แห่ง ซึ่งก็คือสนามบินนานาชาติสจวร์ตในนิวยอร์ก ต้องปิดรันเวย์ชั่วคราวเป็นเวลาประมาณ 1 ชั่วโมงในคืนวันที่ 13 ธ.ค.

ในช่วงเวลาเดียวกันนั้น น่านฟ้าเหนือฐานทัพอากาศไรท์-แพตเตอร์สันในโอไฮโอถูกจำกัดเนื่องจากมีกิจกรรมของโดรนในขณะที่เจ้าหน้าที่กำลังเฝ้าติดตามสถานการณ์

ฐานทัพปิดพื้นที่อากาศเป็นเวลาหลายชั่วโมงในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา แต่กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ กล่าวว่า “ไม่พบความเชื่อมโยงใด ๆ” กับการพบเห็นโดรนในนิวเจอร์ซีและที่อื่น ๆ

พล.ต.แพต ไรเดอร์ โฆษกกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ กล่าวเมื่อวันที่ 16 ธ.ค. ว่า “มีโดรนหลายพันลำบินรอบสหรัฐฯ ทุกวัน ดังนั้น การเห็นโดรนบนท้องฟ้าจึงไม่ใช่เรื่องแปลก และไม่ได้เป็นสัญญาณบ่งชี้ถึงกิจกรรมที่เป็นอันตรายหรือภัยคุกคามต่อความปลอดภัยสาธารณะใด ๆ และคำอธิบายเดียวกันนี้ก็ใช้ได้กับโดรนที่บินใกล้ฐานทัพทหารสหรัฐฯ ด้วย”

เคอร์บีกล่าวว่า รัฐบาลได้พยายามอย่างเต็มที่และจะยังคงทำอย่างเต็มที่และตรงไปตรงมามากที่สุดเท่าที่จะทำได้ในการหาคำตอบมาให้ประชาชน

“เราจะไม่คาดเดา และเราจะไม่ตั้งสมมติฐาน เราจะไม่ทำ เราจะไม่นำเสนอเนื้อหาที่เราไม่สามารถแน่ใจได้ว่าถูกต้องหรือไม่” เขากล่าว

ปัจจุบันมีผู้คนครอบครองโดรนอย่างแพร่หลายทั่วสหรัฐฯ โดยมีโดรนที่จดทะเบียนกับ FAA ประมาณ 792,000 ลำ ครึ่งหนึ่งเป็นโดรนเพื่อการพาณิชย์และอีกครึ่งหนึ่งเป็นโดรนเพื่อการสันทนาการ โดรนเหล่านี้ยังถูกนำไปใช้ในอุตสาหกรรมต่าง ๆ รวมถึงการถ่ายภาพ เกษตรกรรม และการบังคับใช้กฎหมาย

 

เรียบเรียงจาก CNN