“พีระมิดกลางแอนตาร์กติกา” มีคนสร้างหรือธรรมชาติรังสรรค์?

โดย PPTV Online

เผยแพร่

นักวิทย์ยืนยัน “พีระมิด” ในแอนตาร์กติกา ซึ่งหลายคนเชื่อว่าอาจเกิดจากอารยธรรมโบราณหรือมนุษย์ต่างดาวนั้น เป็นแค่ “ภูเขา” ที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ

ถ้าพูดถึง “พีระมิด” หลายคนคงนึกถึงสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังในอียิปต์และอเมริกากลาง แต่เมื่อปี 2016 มีพีระมิดอีกแห่งหนึ่งที่ถูกพูดถึงอย่างมาก โดยเฉพาะบนโลกอินเทอร์เน็ต นั่นคือ “พีระมิดกลางแอนตาร์กติกา”

ใช่แล้ว เรากำลังพูดถึงทวีปแอนตาร์กติกาที่ตั้งอยู่บริเวณขั้วโลกใต้ ซึ่งเต็มไปด้วยนำแข็งและหิมะสีขาวโพลนและสภาพอากาศที่หนาวเย็น แต่ภาพถ่ายดาวเทียมเผยให้เห็นว่า มีโครงสร้างคล้ายพีระมิดตั้งอยู่บนทวีปแห่งนี้

คอนเทนต์แนะนำ
เครื่องบินหลบวุ่น! ยาน “สตาร์ชิป” แตกเป็นเสี่ยง-ลุกเป็นไฟ
อิสราเอลเลื่อนรับรองข้อตกลงหยุดยิงกาซา

“พีระมิดกลางแอนตาร์กติกา” มีคนสร้างหรือธรรมชาติรังสรรค์? Google Maps
พีระมิดกลางแอนตาร์กติกา

พีระมิดดังกล่าวทำให้ชาวเน็ตพากันตั้งทฤษฎีและการคาดเดาต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นพีระมิดนี้อาจเป็นฝีมือผู้คนในอารยธรรมโบราณ หรืออาจเป็นผลงานของมนุษย์ต่างดาว

แต่นักวิทยาศาสตร์บอกว่า นอกจากทฤษฎีข้างต้นแล้ว พีระมิดนี้ยังสามารถเกิดขึ้นได้จาก “กระบวนการกัดเซาะที่ช้าและซับซ้อน”

เมารี เพลโต ศาสตราจารย์ด้านวิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อมจาก Nichols College ในเมืองดัดลีย์ รัฐแมสซาชูเซตส์ เคยบอกว่า พีระมิดนี้ความจริงแล้วเป็น “ภูเขา” ซึ่งไม่มีชื่ออย่างเป็นทางการ

เขาบอกว่า ฐานวิจัยสำหรับนักวิทยาศาสตร์ด้านสภาพอากาศตั้งอยู่ทางใต้ของภูเขาในพื้นที่ที่เรียกว่า Patriot Hills และ “น่าจะมองเห็นภูเขาลูกนี้จากที่นั่น”

ภูเขาพีระมิดในแอนตาร์กติกาลูกนี้มีความสูงประมาณ 1,265 เมตร มีลักษณะลาดชัน 4 ด้าน ตั้งอยู่ในเทือกเขาเอลส์เวิร์ธ ซึ่งขึ้นชื่อเรื่องมีซากดึกดำบรรพ์ของไทรโลไบต์ (Trilobite) และสัตว์โบราณอื่น ๆ อายุกว่า 500 ล้านปี โดยบางส่วนที่พบมีอายุย้อนไปถึงยุคแคมเบรียน (541 ล้านถึง 485.4 ล้านปีก่อน)

เพลโตบอกว่า ที่ด้านข้างของภูเขามีความชาดชันน่าจะเพราะถูกกัดเซาะและปรับให้เรียบเป็นเวลาหลายร้อยล้านปี จนเกิดรูปทรงคล้ายพีระมิด โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หินอาจได้รับการกัดเซาะประเภทที่เรียกว่า “Freeze-Thaw Erosion” ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อน้ำและหิมะแทรกเข้าไปในรอยแตกร้าวเล็ก ๆ ระหว่างพื้นผิวของภูเขา จากนั้นจึงแข็งตัวในเวลากลางคืน

จากนั้นน้ำจะขยายตัวในรอยแตกร้าวขณะที่น้ำแข็งแข็งตัว ทำให้ช่องว่างขยายใหญ่ขึ้นภายใต้แรงกดดันที่เกิดขึ้น และในที่สุดทำให้หินก้อนใหญ่แตกออกจากภูเขา

เพลโตบอกว่า จากการศึกษา ดูเหมือนว่าภูเขาพีระมิดนี้จะมีสามด้านที่ถูกกัดเซาะในอัตราเดียวกัน ในขณะที่ด้านที่สี่ ซึ่งก็คือสันเขาทางทิศตะวันออก ก่อตัวขึ้นโดยอิสระ

เขาเสริมว่า การกัดเซาะจากการแข็งตัวและละลายของน้ำแข็งอาจเป็นสาเหตุของภูเขาคล้ายพีระมิดแห่งอื่น ๆ บนโลกเช่นกัน เช่น ยอดเขาแมตเทอร์ฮอร์นในเทือกเขาแอลป์ของสวิตเซอร์แลนด์

ด้าน เอริก ริกน็อต ศาสตราจารย์ด้านวิทยาศาสตร์ระบบโลกที่มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนียเออร์ไวน์ และนักวิจัยอาวุโสที่ห้องปฏิบัติการขับเคลื่อนไอพ่นของนาซา (NASA) เคยบอกว่า “นี่เป็นเพียงภูเขาที่ดูเหมือนพีระมิด” เท่านี่น

เขาบอกว่า “ภูเขาที่มีรูปร่างของพีระมิดไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้ ยอดเขาหลายแห่งดูเหมือนพีระมิดบางส่วน แต่มีเพียงหนึ่งหรือสองด้านเท่านั้น ไม่ค่อยมีสี่ด้าน”

 

เรียบเรียงจาก Live Science

Bottom-BDMS Bottom-BDMS

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

PPTVHD36

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ