พลตรี ฮอสเซน ซาลามี ผู้บัญชาการกองกำลังพิทักษ์ปฏิวัติอิหร่าน (IRGC) พร้อมทหารระดับสูงอีกหลายนาย ลงพื้นที่แห่งหนึ่งในประเทศ เพื่อเยี่ยมชมฐานทัพเรือใต้ดินแห่งใหม่ โดยหนึ่งในยุทธฏปกรณ์ที่ปรากฏในคลิปคือ เรือติดอาวุธที่พัฒนาชึ้นเพื่อต่อสู้กับเรือรบสหรัฐฯ โดยเฉพาะ
อย่างไรก็รตาม รายงานไม่ได้ระบุอย่างชัดเจนว่า ฐานทัพแห่งดังกล่าวตั้งอยู่ที่ใด แต่ระบุเพียงว่า อยู่ทางตอนใต้ ระหว่างอ่าวเปอร์เซียกับช่องแคบฮอร์มุซและอ่าวโอมาน ห่างจากชายฝั่งประมาณ 500 เมตร
การเปิดเผยดังกล่าวของอิหร่านเกิดขึ้นก่อนที่ โดนัลด์ ทรัมป์ จะสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐเป็นสมัยที่ 2 ในวันที่ 20 ม.ค. โดยว่าที่ผู้นำสหรัฐส่งสัญญาณว่า จะกลับมาใช้มาตรการ “กดดันขั้นสูงสุด” กับอิหร่านอีกครั้ง หลังในสมัยแรก ทรัมป์นำสหรัฐฯ ถอนตัวฝ่ายเดียวออกจากข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่าน แล้วกลับมาใช้มาตรการคว่ำบาตรสูงสุดกับอีกฝ่าย และรัฐบาลของประธานาธิบดีโจ ไบเดน สานต่อเรื่องนี้จนถึงปัจจุบัน
ขณะเดียวกัน เมื่อวันที่ 17 ม.ค. ที่ผ่านมา ประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิเมียร์ ปูติน และประธานาธิบดีอิหร่าน มาซูด เปเซชเคียน ลงนามร่วมกันในข้อตกลง “การเป็นหุ้นส่วนที่ครอบคลุม” ในกรุงมอสโก
ภายใต้ข้อตกลงนีั ทั้งสองประเทศจะมีการช่วยเหลือและสนับสนุนซึ่งกันและกัน ทั้งในด้านเศรษฐกิจและความมั่นคง เพื่อรับมือและเผชิญหน้ากับ “ภัยคุกคามด้านความมั่นคงที่เกิดขึ้นร่วมกัน”
แม้รัสเซียและอิหร่าน จะไม่ระบุอย่างเจาะจงว่าการงนามที่เกิดขึ้นเป็นการสร้าง กรอบความร่วมมือการเป็นหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ด้านความมั่นคงที่ครอบคลุม” แต่หลายฝ่ายต้อข้อสังเกตว่าข้อตกลงนี้อาจเป็นแบบเดียวกับที่รัสเซียลงนามร่วมกับเกาหลีเหนือ เมื่อเดือน มิ.ย. ปีที่แล้ว