สหรัฐฯ-อิสราเอลเจอสงครามเต็มรูปแบบ หากโจมตีสถานที่ตั้งนิวเคลียร์อิหร่าน

อับบาส อารักชี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศอิหร่าน ระบุว่า การโจมตีทางทหารต่อสถานที่ด้านนิวเคลียร์ จะเป็นหนึ่งในความผิดพลาดครั้งใหญ่ที่สุดของสหรัฐฯ โดยอิหร่านจะใช้มาตรการตอบโต้ขั้นเด็ดขาดที่นำไปสู่สงครามอย่างเต็มรูปแบบในภูมิภาคตะวันออกกลาง

อย่าางไรก็ตาม อารักชียืนยันว่า แม้อิหร่านจะมีศักยภาพในการผลิตอาวุธนิวเคลียร์ แต่ไม่เคยมียุทธปกรณ์ชนิดนี้ไว้ในครอบครองและไม่มีนโยบายจะทำเช่นนั้นด้วย

Reuters/Reuters

ก่อนหน้านี้ เมื่อเดือน พ.ย. สื่อสหรัฐฯ รายงานงานว่า กองทัพอิสราเอลได้โจมตีอาคารเทลกาน 2 (Taleghan 2) ในฐานทัพปาร์ชิน  (Parchin) ใกล้กรุงเตหะรานของอิหร่านเมื่อวันที่ 25 ต.ค.  โดยได้ทำลายอุปกรณ์สำหรับการสร้างระเบิดที่สามารถบรรจุยูเรเนียมไว้ภายในอาวุธนิวเคลียร์

ปฏิบัติการดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของการตอบโต้อิหร่านที่ส่งโดรนและขีปนาวุธเกือบ 200 ลูก โจมตีเป้าหมายอิสราเอลเมื่อเดือน เม.ย.

นอกจากนี้กองทัพอิสราเอลยังเปิดเผยว่าสามารถครอบครองพื้นที่ทางอากาศของซีเรียได้ทั้งหมดแล้ว หลังการล่มสลายของรัฐบาลอดีตประธานาธิบดี บาชาร์ อัล อัสซาด ซึ่งจะเปิดโอกาสให้ปฏิบัติการโจมตีสถานที่ผลิตอาวุธนิวเคลียร์ในอิหร่านทำได้สะดวกมากขึ้น

ส่วนความคืบหน้าการปฏิบัติตามเงื่อนไขหยุดยิงระหว่างอิสราเอล และ กลุ่มฮามาส เมื่อวันที่ 1 ก.พ. มีการปล่อยตัวประกันเพิ่มเติมอีก 3 คน ประกอบไปด้วยชาวอิสราเอล 2 คน คือ ยาร์เดน บิบาส วัย 34 ปี และโอเฟอร์ คาลเดรอน วัย 53 ปี  ซึ่งได้รับการปล่อยตัวที่เมืองคานยูนิส ทางตอนใต้ของฉนวนกาซา ขณะที่อีก 1 คน คือ คีธ ซีเกล วัย 65 ซึ่งถือสัญชาติอเมริกัน-อิสราเอล ได้รับการปล่อยตัวที่เมืองกาซาซิตี

สำนักข่าวบีบีซีรายงานว่า การปล่อยตัววันนี้เป็นระเบียบเรียบร้อย ต่างจากภาพความโกลาหลเมื่อวันที่ 30 ม.ค. ขณะที่ทางฝ่ายอิสราเอล ได้ปล่อยตัวชาวปาเลสไตน์ 182 คน ที่ถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำอิสราเอล เป็นการแลกเปลี่ยน

นับจนถึงตอนนี้ กลุ่มฮามาสได้ปล่อยตัวประกันแล้ว 17 คน แลกกับนักโทษชาวปาเลสไตน์ 400 คน

สำหรับการเจรจาเกี่ยวกับข้อตกลงในการปล่อยตัวประกันที่เหลือและการถอนกำลังทหารอิสราเอลออกจากกาซาในระยะที่สองของข้อตกลง มีกำหนดเริ่มภายในวันที่ 4 ก.พ. นี้

ส่วนความคืบหน้าของตัวประกันชาวไทยที่ได้รับการปล่อยตัว 5 คน ล่าสุด นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศ พร้อมด้วยพลเอกทรงวิทย์ หนุนภักดี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด และคณะ ได้เดินทางถึงกรุงเทลอาวีฟ เมืองหลวงของอิสราเอลแล้ว และมีกำหนดจะเข้าเยี่ยมตัวประกันชาวไทยที่ได้รับการปล่อยตัวทุกคน