จากกรณีที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวเมื่อต้นสัปดาห์นี้ว่า เขาได้ส่งจดหมายถึงผู้นำสูงสุดอิหร่าน อยาตอลเลาะห์ อาลี คาเมเนอี เพื่อขอเริ่มการเจรจาข้อตกลงนิวเคลียร์นั้น เจ้าหน้าที่อิหร่านยืนยันว่า พวกเขายังไม่ได้รับจดหมายใด ๆ จากทรัมป์เลย
ขณะที่ล่าสุดเมื่อวันที่ 7 มี.ค. คาเมเนอีออกมาเคลื่อนไหวแล้ว โดยกล่าวระหว่างการประชุมกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงของอิหร่านว่า สหรัฐฯ ไม่ได้ต้องการเจรจากับอิหร่าน แต่ต้องการเรียกร้องจากอิหร่านมากกว่า
ผู้นำอิหร่านบอกว่า “รัฐบาลอันธพาลบางแห่งกำลังยืนกรานให้มีการเจรจา แต่การเจรจาของพวกเขาไม่ได้มีจุดมุ่งหมายเพื่อแก้ไขปัญหา แต่เพื่อครอบงำและกำหนดความคาดหวังของตนเอง”
เขาเสริมว่า “สำหรับพวกเขา การเจรจาคือหนทางที่จะนำเสนอข้อเรียกร้องใหม่ ๆ ประเด็นนี้ไม่ได้เกี่ยวกับแค่เรื่องนิวเคลียร์เท่านั้น แต่ยังทำให้เกิดความคาดหวังใหม่ ๆ ที่อิหร่านจะไม่ยอมรับอย่างแน่นอน”
คาเมเนอีบอกอีกว่า “พวกเขาเรียกร้องให้มีการจำกัดขีดความสามารถในการป้องกันประเทศและอิทธิพลระหว่างประเทศ โดยกล่าวว่า ‘อย่าทำอย่างนี้ อย่าพบปะกับบุคคลนั้น อย่าผลิตสิ่งของนั้น’ หรือ ‘พิสัยขีปนาวุธของคุณไม่ควรเกินขีดจำกัดที่กำหนด’”
ขณะเดียวกัน รัสเซียกล่าวเมื่อต้นสัปดาห์นี้ว่า ยินดีที่จะช่วยไกล่เกลี่ยการเจรจานิวเคลียร์ครั้งใหม่ระหว่างสหรัฐฯ และอิหร่าน ท่ามกลางความเป็นไปได้ที่ความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ และรัสเซียจะดีขึ้นจากสงครามในยูเครน
อิหร่านยืนกรานมานานแล้วว่า โครงการของตนมีไว้เพื่อวัตถุประสงค์ที่สันติ อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ของอิหร่านขู่อยู่บ่อยครั้งที่จะแสวงหาขีดความสามารถทางทหารมากขึ้น เนื่องจากความตึงเครียดยังคงสูงจากการคว่ำบาตรของสหรัฐฯ และสงครามที่ยังคงดำเนินอยู่ของอิสราเอลในฉนวนกาซา
ทั้งอิสราเอลและสหรัฐฯ ได้ออกมาเตือนว่า พวกเขาจะไม่ยอมให้อิหร่านครอบครองอาวุธนิวเคลียร์ ทำให้เกิดความกลัวว่าจะเกิดการเผชิญหน้าทางทหาร เนื่องจากเตหะรานได้เสริมสมรรถนะยูเรเนียมในระดับใกล้เคียงกับเกรดทำอาวุธ
หน่วยข่าวกรองของสหรัฐฯ ได้ประเมินว่าอิหร่านยังไม่ได้เริ่มโครงการอาวุธ แต่ได้ “ดำเนินกิจกรรมที่อาจทำให้อิหร่านอยู่ในตำแหน่งที่ดีขึ้นในการผลิตอุปกรณ์นิวเคลียร์ หากอิหร่านเลือกที่จะทำเช่นนั้น”
เรียบเรียงจาก Al Jazeera
- คอนเทนต์พิเศษ
สำหรับคุณ - TOP ต่างประเทศ
- วิดีโอยอดนิยม
