อินเดีย-ปากีสถานยกเลิกวีซ่าระหว่างกัน หลังเหตุกราดยิงแคชเมียร์

จากกรณีเหตุกราดยิงนักท่องเที่ยวในแคชเมียร์ จนทำให้มีผู้เสียชีวิต 26 คน บาดเจ็บอีก 17 คนนั้น ทางการอินเดียประกาศว่า วีซ่าทั้งหมดที่ออกให้กับพลเมืองปากีสถานจะถูกเพิกถอนตั้งแต่วันอาทิตย์นี้ (27 เม.ย.) เป็นต้นไป และชาวปากีสถานทุกคนที่อยู่ในอินเดียจะต้องเดินทางออกจากประเทศก่อนวีซ่าหมดอายุ ตามกำหนดเวลาใหม่ที่ประกาศ

อินเดียยังประกาศมาตรการอื่น ๆ รวมถึงการลดจำนวนเจ้าหน้าที่การทูต และการปิดจุดผ่านแดนทางบกแห่งเดียวที่ยังใช้งานได้ระหว่างสองประเทศ

Reuters/Stringer

ขณะเดียวกัน ปากีสถานแสดงท่าทีไม่พอใจหลังอินเดียระงับสนธิสัญญาแบ่งปันน้ำเมื่อวันที่ 24 เม.ย. และกล่าวหาปากีสถานว่าอยู่เบื้องหลังเหตุโจมตี

สนธิสัญญาแม่น้ำสินธุ ลงนามเมื่อปี 1960 โดยมีธนาคารโลกเป็นคนกลาง กำหนดให้อินเดียและปากีสถานแบ่งปันน้ำจากระบบแม่น้ำที่ถือเป็นเส้นเลือดสำคัญของสองประเทศ โดยเฉพาะภาคเกษตรกรรมของปากีสถาน 

ปากีสถานยืนยันว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุโจมตี และเตือนว่า หากอินเดียดำเนินการใด ๆ เพื่อหยุดหรือเบี่ยงเบนการไหลของน้ำ จะถือเป็นการก่อสงคราม และจะเผชิญกับการตอบโต้ด้วยกำลังอย่างเต็มรูปแบบในทุกด้าน 

ปากีสถานยังได้ปิดน่านฟ้าสำหรับสายการบินที่เป็นของอินเดียหรือดำเนินการโดยอินเดีย และระงับการค้ากับอินเดียทั้งหมด รวมถึงการค้าผ่านประเทศที่สาม

นอกจากนี้ เมื่อวันที่ 24 เม.ย. ตำรวจอินเดียยังเผยแพร่ภาพสเกตช์และชื่อของ 3 ผู้ต้องสงสัยที่ก่อเหตุกราดยิงนักท่องเที่ยวในแคชเมียร์ พร้อมกันนี้ ยังมีการตั้งรางวัลนำจับ 2 ล้านรูปี สำหรับผู้ที่มีเบาะแสจนนำไปสู่การจับกุมตัวคนร้าย

ข้อมูลเบื้องต้น ชี้ว่า ผู้ต้องสงสัย 2 ใน 3 คน เป็นพลเมืองชาวปากีสถาน แต่ไม่ได้ระบุรายละเอียดว่า ยืนยันตัวตนของคนร้ายได้อย่างไร

ประกาศดังกล่าวยังระบุด้วยว่า ผู้ต้องสงสัยเหล่านี้เป็นส่วนหนึ่งของกลุ่ม ลัชกาเรตัยบา (Lashkar-e-Taiba) องค์กรติดอาวุธอิสลามที่มีฐานอยู่ในปากีสถาน ซึ่งกลุ่มนี้ ถูกกล่าวหาว่าวางแผนโจมตีในอินเดียและในโลกตะวันตก รวมถึงการโจมตีที่นครมุมไบเป็นเวลา 3 วัน เมื่อเดือนพฤศจิกายน ปี 2008 และกลุ่มนี้ถูกขึ้นบัญชีเป็นองค์กรก่อการร้ายระหว่างประเทศโดยสหรัฐอเมริกา

ขณะเดียวกัน กลุ่มต่อต้านแคชเมียร์ ก็อ้างว่าเป็นผู้ก่อเหตุโจมตีเช่นกัน ซึ่งเหตุการณ์นี้ถือเป็นเหตุการณ์ที่นองเลือดที่สุดในอินเดีย นับตั้งแต่เหตุโจมตีที่นครมุมไบในปี 2008

สำหรับกลุ่มต่อต้านแคชเมียร์ก่อตั้งขึ้นในปี 2019 และถือเป็นกลุ่มย่อยของกลุ่ม ลัชกาเรตัยบา ที่อยู่ในปากีสถาน

ขณะที่ นายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดี ของอินเดีย ให้คำมั่นจะติดตามไล่ล่ากลุ่มผู้ก่อการร้าย และผู้ที่ให้การสนับสนุน มาลงโทษอย่างสาสม ท่ามกลางบรรยากาศของการชุมนุมประท้วงในหลายเมืองใหญ่ทั่วประเทศ เพื่อเรียกร้องความยุติธรรมให้กับผู้เสียชีวิตทั้ง 26 คน

ก่อนหน้านี้ รัฐบาลอินเดียประกาศมาตรการตอบโต้ ทั้งการลดความสัมพันธ์ทางการทูตกับปากีสถาน ขับไล่เจ้าหน้าที่ทางการทูตของอีกฝ่าย ระงับสนธิสัญญาแบ่งปันน้ำระหว่างกัน และปิดด่านข้ามแดนหลักที่ติดกับปากีสถาน