จากกรณีเกิดเหตุระเบิดครั้งใหญ่ที่ท่าเรือ ชาฮิด ราจี ใกล้เมืองบันดาร์อับบาส ทางตอนใต้ของอิหร่าน ล่าสุดมีรายงานว่า ตัวเลขผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นเป็นอย่างน้อย 40 ราย แล้ว
ขณะที่จำนวนผู้บาดเจ็บนั้น จากรายงานของสื่อทางการของรัฐ ตอนนี้พุ่งทะลุ 1,000 คนแล้ว โดย ปีร์ ฮอสเซน โคลิแวนด์ หัวหน้าสภากาชาดอิหร่าน กล่าวว่า ในบรรดาผู้ได้รับบาดเจ็บ มีอย่างน้อย 190 รายที่ยังเข้ารับการรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล
วิดีโอจากกล้องวงจรปิดในบริเวณท่าเรือแสดงให้เห็นไฟไหม้เล็กน้อยที่เริ่มจากตู้คอนเทนเนอร์ตู้หนึ่ง โดยคนงานจำนวนหนึ่งกำลังเคลื่อนตัวออกจากที่เกิดเหตุ ก่อนที่จะเกิดการระเบิดครั้งใหญ่และภาพจากกล้องถูกตัดไป
เหตุการณ์นี้ยังเริ่มทำให้เกิดความไม่พอใจในสังคม เนื่องจากทางการอิหร่านยังไม่ระบุอย่างชัดเจนเสียทีว่า อะไรเป็นสาเหตุของเหตุระเบิดครั้งใหญ่นี้ ท่ามกลางรายงานที่ยังไม่ได้รับการยืนยันว่า อาจเกิดจาก “สารเคมีที่ใช้ทำเชื้อเพลิงขีปนาวุธ”
สื่อต่างประเทศรายงานว่า สารเคมีสำคัญสำหรับใช้เป็นเชื้อเพลิงสำหรับโครงการขีปนาวุธพิสัยไกลของอิหร่านหลายร้อยตันเดินทางมาถึงท่าเรือดังกล่าวเมื่อเดือน ก.พ. และมีรายงานว่าสารเคมีอีกจำนวนหนึ่งเดินทางมาถึงในเดือน มี.ค. ที่ผ่านมา
สำนักข่าว Islamic Republic News Agency ซึ่งเป็นสื่อของรัฐ อ้างคำกล่าวของเจ้าหน้าที่คนหนึ่งที่ระบุว่า การระเบิดครั้งนี้น่าจะเกิดจากภาชนะบรรจุสารเคมี แต่ไม่ได้ระบุสารเคมีดังกล่าวว่าเป็นตัวไหน
สำนักข่าวดังกล่าวยังอ้างกรมศุลกากรของอิหร่านระบุว่า การระเบิดดังกล่าวเกิดจาก “สินค้าอันตรายและสารเคมีที่เก็บไว้ในบริเวณท่าเรือ”
ด้านบริษัทน้ำมันแห่งชาติของอิหร่านกล่าวว่า การระเบิดที่ท่าเรือ “ไม่เกี่ยวข้องกับโรงกลั่น ถังน้ำมัน หรือท่อส่งน้ำมัน”
อย่างไรก็ดี เจ้าหน้าที่อิหร่านปฏิเสธว่า ไม่มีวัสดุทางทหารใด ๆ อยู่ในท่าเรือดังกล่าว อิบราฮิม เรซาอี โฆษกคณะกรรมการความมั่นคงแห่งชาติและนโยบายต่างประเทศของรัฐสภาอิหร่าน กล่าวเมื่อวันที่ 27 เม.ย. ว่า “ตามรายงานเบื้องต้น การระเบิดดังกล่าวไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับภาคการป้องกันประเทศของอิหร่าน”
เรียบเรียงจาก CNN