วันที่ 28 เม.ย. ISNA สื่อของรัฐอิหร่านรายงานว่า ยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุระเบิดครั้งใหญ่ที่ท่าเรือ ชาฮิด ราจี ท่าเรือสำคัญที่สุดของอิหร่าน ในเมืองบันดาร์อับบาส เพิ่มขึ้นเป็นอย่างน้อย 70 รายแล้ว และมีผู้ได้รับบาดเจ็บมากกว่า 1,200 ราย
ขณะที่เจ้าหน้าที่ดับเพลิงสามารถควบคุมเพลิงได้แล้วหลังจากใช้เวลานานกว่า 48 ชั่วโมง เนื่องจากไฟเกิดการลุกลามเป็นระยะ ๆ เพราะลมและสินค้าไวไฟที่อยู่ในตู้คอนเทนเนอร์ โดยบางตู้ปล่อยสารพิษออกมาในพื้นที่ที่มีไฟไหม้ด้วย
ISNA รายงานว่า การเคลื่อนย้ายตู้คอนเทนเนอร์อาจใช้เวลานานถึง 2 สัปดาห์ โดยหลังจากควบคุมไฟได้ขนาดใหญ่แล้ว ขณะนี้ปฏิบัติการกู้ภัยกำลังดำเนินการอยู่
ด้าน เอสกันดาร์ โมเมนี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยของอิหร่าน กล่าวว่า “พบข้อบกพร่องเกี่ยวกับการไม่ปฏิบัติตามมาตรการรักษาความปลอดภัย และมีการเรียกตัวผู้กระทำผิดบางคนมาสอบสวนแล้ว”
รายงานเบื้องต้นของคณะกรรมการสอบสวนผู้รับผิดชอบเหตุการณ์ดังกล่าว พบว่า มีข้อบกพร่องในการปฏิบัติตามหลักการของการป้องกันพลเรือนและความมั่นคง
ขณะที่เมื่อวันที่ 27 เม.ย. ผู้นำสูงสุดของอิหร่าน อยาตอลเลาะห์ อาลี คาเมนี สั่งการให้มีการสอบสวนเพื่อ “เปิดเผยความประมาทเลินเล่อหรือเจตนา” ใด ๆ ที่อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์นี้ แต่บอกว่าทางการยังไม่ตัดประเด็นการก่อวินาศกรรมออกไป เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในขณะที่อิหร่านเริ่มการเจรจานิวเคลียร์รอบที่ 3 กับสหรัฐฯ ในโอมาน แต่ไม่มีข้อบ่งชี้ถึงความเชื่อมโยงระหว่างทั้งสองเหตุการณ์
คาดว่าการจัดเก็บสารเคมีในตู้คอนเทนเนอร์ที่ไม่ดีเป็นสาเหตุของการระเบิด โดยกระทรวงกลาโหมของอิหร่านปฏิเสธรายงานของสื่อต่างประเทศที่ระบุว่า การระเบิดอาจเกี่ยวข้องกับการจัดการเชื้อเพลิงแข็งสำหรับขีปนาวุธอย่างไม่ถูกต้อง
เรียบเรียงจาก Reuters