สมเด็จพระสันตะปาปาเลโอที่ 14 ประทับบนรถโป๊ปโมบิล (Popemobile) รถพระที่นั่งแบบเปิดประทุน เป็นครั้งแรก เพื่อทักทายคริสต์ศาสนิกชนที่มารอเฝ้ารับเสด็จอย่างเนืองแน่นกลางจัตุรัสเซนต์ปีเตอร์ เพื่อเข้าร่วมพิธีมิสซาเข้ารับตำแหน่งอย่างเป็นทางการ ท่ามกลางมาตรการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มข้น
ผู้ศรัทธาจำนวนมากพร้อมใจกันโบกธงชาติสหรัฐฯ รวมถึงเปรู เนื่องจากพระสันตะปาปาองค์นี้เป็นพระสันตะปาปาชาวอเมริกันคนแรกในประวัติศาสตร์ และพระองค์ทรงเคยใช้เวลาส่วนใหญ่ทำหน้าที่นักบวชในเปรูจนได้รับสัญชาติเปรูด้วย
นอกจากนี้ ยังมีบางส่วนที่ร่วมใจกันถวายพระพรและกล่าวคำว่า "Viva il Papa!" (วีวา เอล ปาปา) ซึ่งมีความหมายว่า พระสันตะปาปาทรงพระเจริญ! รถโป๊ปโมบิลเคลื่อนไปอย่างรวดเร็ว มีจอดแวะสั้นๆ 2 ครั้ง เพื่อให้โป๊ปเลโอประทานพรให้กับเด็กทารก 3 คน
นอกจากชาวคริสต์นับหมื่นแล้ว พิธีนี้ยังมีบรรดาผู้นำโลก อาทิ รองประธานาธิบดี เจดี แวนซ์ ของสหรัฐฯ และนาย มาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ซึ่งทั้งสองคนนับถือนิกายคาทอลิก มาร่วมพิธีด้วย
นอกจากนี้ ยังมีประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ของยูเครน, ประธานาธิบดีเปรู, อิสราเอล, ไนจีเรีย, นายกรัฐมนตรีอิตาลี, แคนาดา, ออสเตรเลีย, เยอรมนี, รวมถึงนางเออร์ซูลา ฟอน เดอ เลเยน ประธานคณะกรรมาธิการยุโรปด้วย ขณะที่สมาชิกราชวงศ์ในยุโรป อาทิ กษัตริย์และราชินีแห่งสเปน ได้นั่งแถววีไอพี ใกล้กับแท่นบูชาหลัก
โดยพิธีมิสซารับตำแหน่งครั้งนี้ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง พิธีการหลักๆ คือ การมอบสัญลักษณ์แห่งตำแหน่งสันตะปาปาให้กับโป๊ปเลโอที่ 14 ได้แก่ แพลเลียม (Pallium) หรือ เสื้อคลุมทำจากขนแกะ สัญลักษณ์ของการเป็นผู้นำคริสตจักรและผู้เลี้ยงดูฝูงชน รวมถึงแหวนนักบุญเปโตร (Fisherman’s Ring) ซึ่งเป็นแหวนที่มีภาพแกะสลักของนักบุญเปโตร และชื่อ "เลโอที่ 14 (Leo XIV)" ถือเป็นสัญลักษณ์ของอำนาจในฐานะผู้สืบทอดนักบุญเปโตร ซึ่งเป็นพระสันตะปาปาองค์แรกตามความเชื่อคาทอลิก
นอกจากนี้ ยังมีพิธีสวดภาวนา รวมถึงการแสดงเทศนา โดยพระสันตะปาปาทรงเรียกร้องให้เกิดความสามัคคีภายในคริสตจักร และทรงให้คำมั่นที่จะปกป้องคำสอนของคริสตจักรนิกายโรมันคาทอลิก พร้อมทั้งกระตุ้นให้คริสตจักรกล้าเผชิญกับความท้าทายในยุคสมัยใหม่
พระองค์ทรงวิจารณ์ระบบเศรษฐกิจโลกว่ากำลังขูดรีดทรัพยากรของโลกและผลักไสกลุ่มคนยากจนที่สุดในสังคม นอกจากนี้ พระองค์ทรงเตือนเกี่ยวกับการรวมอำนาจไว้ที่ศูนย์กลางโดยพระสันตะปาปา ซึ่งพระองค์จะแสวงหาการปกครองคริสตจักร โดยไม่ตกเป็นเผด็จการ รวมถึงยังทรงเรียกร้องสันติภาพในยูเครน ทรงสวดภาวนาให้กับกาซาและเมียนมาด้วย
โฆษกวาติกันเผยว่า หลังพิธีมิสซา พระสันตะปาปาจะพบปะกับคณะผู้แทนจากนานาชาติภายในมหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ เพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์ระหว่างวาติกันและประชาคมนานาชาติ