อิสราเอลถล่มเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์อิหร่าน ไม่มีรายงานกัมมันตรังสีรั่วไหล

หลังจากที่อิสราเอลได้ทำการโจมตีทางอากาศถล่มอิหร่านมาเป็นเวลากว่าหนึ่งสัปดาห์ พร้อมสร้างความเสียหายแก่กองบัญชาการทหารระดับสูงของอิหร่าน รวมถึงทำลายขีดความสามารถด้านนิวเคลียร์ พร้อมสังหารผู้คนไปเป็นจำนวนมาก ขณะที่การโจมตีตอบโต้ของอิหร่านได้สังหารพลเรือนในอิสราเอลไปอย่างน้อย 24 รายนั้น

19 มิ.ย. 68 สำนักข่าวรอยเตอร์ส รายงานว่า กองกำลังอิสราเอล กล่าวว่า ได้โจมตีเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์คอนดับ ที่ตั้งอยู่ในเมืองอารักของอิหร่านเมื่อคืนที่ผ่านมา รวมถึงเครื่องปฏิกรณ์วิจัยน้ำหนักที่ยังสร้างไม่เสร็จด้วย

AFP/ATTA KENARE

สำหรับเครื่องปฏิกรณ์น้ำหนักนั้นมีความเสี่ยงต่อการแพร่กระจายพลังงานนิวเคลียร์ เนื่องจากสามารถผลิตพลูโตเนียมได้ง่าย เช่นเดียวกับยูเรเนียมเสริมสมรรถนะ ซึ่งสามารถนำไปใช้ทำแกนกลางของระเบิดปรมาณูได้

สื่ออิหร่านรายงานว่า มีขีปนาวุธ 2 ลูกตกลงมาในพื้นที่ใกล้กับโรงงาน ซึ่งได้มีการอพยพผู้คนออกไปแล้ว และไม่มีรายงานภัยคุกคามจากกัมมันตภาพรังสี

กองกำลังอิสราเอลยังกล่าวอีกว่า ได้โจมตีพื้นที่เมืองนาตันซ์ ในเขตกลางของเคาน์ตีนาตันซ์ จังหวัดอิสฟาฮานของอิหร่านด้วย โดยระบุว่าบริเวณดังกล่าวมีการผลิตส่วนประกอบ และอุปกรณ์พิเศษที่ใช้ในการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์

ขณะที่ในช่วงเช้าวันเดียวกันนี้ ขีปนาวุธของอิหร่านหลายลูกได้โจมตีพื้นที่ที่มีประชากรในอิสราเอล รวมถึงโรงพยาบาลทางตอนใต้ของประเทศ ตามคำกล่าวของเจ้าหน้าที่กองกำลังอิสราเอล

ขีปนาวุธและความพยายามสกัดกั้นปรากฏให้เห็นบนท้องฟ้าเหนือกรุงเทลอาวีฟ โดยได้ยินเสียงระเบิดเมื่อสกัดกั้นขีปนาวุธที่พุ่งเข้ามา สื่ออิสราเอลยังรายงานว่ามีการโจมตีโดยตรงในใจกลางอิสราเอลด้วย

หน่วยบริการฉุกเฉินอิสราเอล รายงานว่า มีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส 5 รายจากการโจมตีครั้งนี้ และมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีกหลายสิบรายใน 3 สถานที่แยกกัน โดยผู้คนยังคงติดอยู่ในอาคารแห่งหนึ่งในย่านทางใต้ของเทลอาวีฟ

Reuters/Reuters

ด้านสถานทูตและคณะผู้แทนทางการทูตส่วนใหญ่ในยุโรปและแอฟริกาประมาณ 12 แห่งตั้งอยู่ห่างจากจุดโจมตีในเทลอาวีฟเพียงไม่กี่ร้อยเมตร ภาพดังกล่าวแสดงให้เห็นอาคารต่าง ๆ ที่ได้รับความเสียหายอย่างหนักในรามัตกัน ใกล้กับเทลอาวีฟ เจ้าหน้าที่กู้ภัยกำลังให้ความช่วยเหลือประชาชน รวมถึงศูนย์การแพทย์โซโรคาในเบียร์เชบา ทางตอนใต้ของอิสราเอล รายงานว่าได้รับความเสียหายอย่างหนัก

ความขัดแย้งครั้งเลวร้ายที่สุดระหว่างสองมหาอำนาจในภูมิภาคนี้ ทำให้เกิดความกลัวว่าความขัดแย้งดังกล่าวจะดึงมหาอำนาจระดับโลกเข้ามาและทำให้ตะวันออกกลางไม่มั่นคงยิ่งขึ้น

ขณะที่เมื่อวันที่ 18 มิ.ย. ที่ผ่านมา โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ให้สัมภาษณ์กับนักข่าวที่หน้าทำเนียบขาว โดยปฏิเสธที่จะบอกว่าได้ตัดสินใจแล้วหรือไม่ว่าจะเข้าร่วมปฏิบัติการทางอากาศของอิสราเอล "ผมอาจจะทำก็ได้ ผมอาจจะไม่ทำก็ได้ ผมหมายความว่าไม่มีใครรู้ว่าผมจะทำอะไร" ทรัมป์กล่าว

ทรัมป์ กล่าวในภายหลังว่าเจ้าหน้าที่อิหร่านต้องการไปประชุมที่วอชิงตันว่า "เราอาจจะทำก็ได้" พร้อมเสริมว่า "สายเกินไปเล็กน้อย" สำหรับการเจรจาดังกล่าว

ที่มา: Reuters