สื่อเกาหลีใต้รายงานเมื่อวันที่ 19 ต.ค. 68 ว่า หน่วยข่าวกรองทางการเงิน (FIU) ภายใต้คณะกรรมการกำกับดูแลด้านตลาดทุนของเกาหลีใต้ (FSC) กำลังพิจารณาว่า จะกำหนดบุคคลและธุรกิจที่ต้องสงสัยว่ามีสาวนเกี่ยวข้องกับแก๊งมิจฉาชีพในกัมพูชา ซึ่งจะนำไปสู่การอายัดทรัพย์และห้ามทำธุรกิจทางการเงิน รวมถึงสกุลเงินดิจิทัล
โดยคาดว่าจะมีการประกาศยืนยันมาตรการดังกล่าวภายในเดือนนี้ และจะถือว่าเป็นการดำเนินการที่เด็ดขาดที่สุดของเกาหลีใต้จนถึงขณะนี้ เพื่อตอบสนองต่อคำวิจารณ์ว่ารัฐบาลดำเนินการเชื่องช้า
การพิจารณามาตรการดังกล่าวเกิดขึ้นหนึ่งสัปดาห์หลังจากสหรัฐฯ และอังกฤษ ประกาศคว่ำบาตร Prince Group และ Huione Group ของกัมพูชา ซึ่งทั้งสองบริษัทถูกกล่าวหาว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับค้ามนุษย์ การฟอกเงิน และการฉ้อโกงไซเบอร์ขนาดใหญ่
ทั้งนี้ ยังไม่เป็นที่ทราบแน่ชัดว่า Prince Group และ Huione Group มีทรัพย์สินอยู่ในเกาหลีใต้เท่าไร แต่ขณะนี้ ตำรวจเกาหลีใต้กำลังอยู่ระหว่างสอบสวนคำกล่าวอ้างว่า Prince Group มีสำนักงานอยู่กรุงโซล ซึ่งอาจเป็นฉากหน้าสำหรับการรับสมัครที่เกี่ยวข้องกับการหลอกลวงทำงานในต่างประเทศ
โดยมีรายงานว่า บริษัทอสังหาริมทรัพย์ในเครือของ Prince Group เปิดสำนักงานบนชั้น 16 ของอาคารในย่านกังนัมมาตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ ในชื่อ คิงเมน เรียลเอสเตท กรุ๊ป (Kingmen Real Estate Group)
พลตำรวจเอก ยู แจซอง รักษาการผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติของเกาหลีใต้ กล่าวระหว่างให้ข้อมูลต่อคณะกรรมาธิการรัฐสภาเมื่อวันที่ 17 ต.ค. ว่า ตำรวจกำลังอยู่ระหว่างตรวจสอบคำกล่าวอ้างดังกล่าว เพื่อพิจารณาว่าจะเปิดการสอบสวนอย่างเป็นทางการต่อบริษัทในเครือของ Prince Group หรือไม่
มาตรการคว่ำบาตรที่คาดว่าจะมีขึ้นถือเป็นการเปลี่ยนแปลงสำคัญในท่าทีของรัฐบาลเกาหลีใต้ ซึ่งก่อนหน้านี้เน้นวิธีทางการทูตมากกว่ามาตรการลงโทษ
นอกจากนี้ หน่วยข่าวกรองทางการเงินของเกาหลีใต้ ยังมีแผนที่จะขยายการสอบสวนกิจกรรมฟอกเงินที่เกี่ยวข้องกับสกุลเงินดิจิทัลในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ภายในปีนี้ด้วย
ขณะเดียวกัน หน่วยงานที่เกี่ยวข้องระบุเมื่อวันที่ 19 ต.ค. ว่า กระทรวงยุติธรรมของเกาหลีใต้กำลังหารือกับรัฐบาลกัมพูชา เพื่อหาวิธีการที่จะกู้คืนรายได้ของแก๊งอาชญากรรมที่ได้จากการหลอกลวงชาวเกาหลีใต้ กลับประเทศ
วิธีการที่กำลังอยู่ระหว่างการพิจารณาคือ กระทรวงยุติธรรมจะส่งคำร้องผ่านกระทรวงต่างประเทศ ขอให้ทางกัมพูชาระบุตัวผู้เสียหายและจำนวนเงินที่สูญเสีย จากนั้นทางการกัมพูชาจะดำเนินการสอบสวนและติดตามเงิน ก่อนจะโอนกลับมายังเกาหลีใต้
รัฐบาลเกาหลีใต้มีแผนที่จะเริ่มจากคดีอาชญากรรมที่เกี่ยวข้องกับกัมพูชา ซึ่งอยู่ระหว่างการสอบสวนและพิจารณาคดีในเกาหลีใต้ โดยหากมีคำตัดสินว่ามีความผิด จะกำหนดจำนวนเงินที่เสียหายเป็นเป้าหมายสำหรับการเรียกคืน
ตามสนธิสัญญาว่าด้วยการช่วยเหลือทางกฎหมายระหว่างกันในคดีอาญา หากผู้เสียหายอยู่ในเกาหลีใต้และสามารถระบุจำนวนเงินที่สูญเสียไปได้ แม้ว่าอาชญากรรมเกิดขึ้นในต่างประเทศ ก็สามารถร้องขอให้กู้คืนรายได้จากอาชญากรรมได้ โดยเกาหลีใต้ได้ทำสนธิสัญญานี้กับกัมพูชาในปี 2019 และมีผลบังคับใช้ในปี 2021
- คอนเทนต์พิเศษ
สำหรับคุณ - TOP ต่างประเทศ
- วิดีโอยอดนิยม
