สำนักอุตุนิยมวิทยาของฟิลิปปินส์รายงานว่า พายุไต้ฝุ่นคัลแมกี (Kalmaegi) ได้พัดขึ้นฝั่งบริเวณหมู่เกาะวิซายาส (Visayas) เมื่อเวลาประมาณ 23.00 น. ของวันที่ 3 พ.ย. ตามเวลาท้องถิ่น ด้วยความเร็วลมสูงสุดใกล้จุดศูนย์กลาง 155 กม./ชม. และความเร็วลมกระโชกถึง 205 กม./ชม.
ฝนที่ตกหนักและลมพายุทำให้ต้นไม้และเสาไฟฟ้าหักโค่น เส้นทางสัญจรถูกตัดขาด เที่ยวบินและการเดินเรือได้รับผลกระทบ ขณะที่สำนักอุตุนิยมวิทยาเตือนอาจมีคลื่นพายุซัดฝั่งสูงถึง 3 เมตร
รองผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติของฟิลิปปินส์ระบุว่า ประชาชนกว่า 156,000 คน ได้รับอพยพล่วงหน้าแล้วเพื่อความปลอดภัย
ฟิลิปปินส์เผชิญพายุโซนร้อนและพายุไต้ฝุ่นเฉลี่ยปีละประมาณ 20 ลูก ซึ่งมักสร้างความเสียหายร้ายแรงต่อพื้นที่ที่มีความเสี่ยงและยากจน
โดยพายุไต้ฝุ่นคัลแมกี ซึ่งเป็นพายุลูกที่ 20 ที่พัดเข้าฟิลิปปินส์ในปีนี้ กำลังเคลื่อตวตัวไปทางตะวันตก และคาดว่าจะผ่านพื้นที่ภาคกลางเข้าสู่ทะเลจีนใต้ระหว่างวันที่ 4-5 พฤศจิกายน และจะเข้าใกล้ชายฝั่งเวียดนามช่วงวันที่ 7-9 พฤศจิกายน
โดยที่เวียดนาม เมื่อวันที่ 3 พ.ย. เจ้าหน้าที่และอาสาสมัครในภาคกลางยังคงเร่งช่วยเหลือพื้นที่ห่างไกลที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมและดินถล่ม ซึ่งคร่าชีวิตแล้วอย่างน้อย 37 คน ขณะอีกหนึ่งพายุไต้ฝุ่นคัลแมกีกำลังมุ่งหน้าขึ้นฝั่งในสัปดาห์นี้
ฝนตกหนักเป็นประวัติการณ์ตั้งแต่ปลายเดือนตุลาคมทำให้เกิดน้ำป่า ดินถล่ม หมู่บ้านหลายแห่งถูกน้ำท่วม บ้านเรือนถูกพัดพา และประชาชนหลายหมื่นคนต้องอพยพออกจากพื้นที่
หลายพื้นที่รวมถึงที่เมืองดานัง ยังคงไม่มีไฟฟ้าใช้ และเครือข่ายสื่อสารถูกตัดขาด ขณะที่คลอง แม่น้ำ และชายฝั่งถูกกัดเซาะ ถนนสายหลักหลายเส้นยังไม่สามารถสัญจรได้
เช่นเดียวกับที่กัมพูชา ฝนที่ตกหนักต่อเนื่องกว่าหนึ่งชั่วโมงในกรุงพนมเปญ เมื่อวันที่ 3 พ.ย. ทำให้หลายพื้นที่เกิดน้ำท่วมฉับพลัน ผู้ใช้ถนนจำนวนมากต้องเข็นรถจักรยานยนต์ลุยน้ำ ขณะที่รถยนต์บางคันไม่สามารถผ่านไปได้
ก่อนหน้านี้ พยากรณ์อากาศระบุว่า กรุงพนมเปญจะมีฝนฟ้าคะนองและลมแรงตั้งแต่วันอาทิตย์จนถึงวันนี้