เอกสารประกาศผู้ชนะการเสนอราคา จ้างงานปรับปรุงที่ทำการไปรษณีย์คลองหลวง ระบุวิธีการว่าจ้าง "ใช้วิธีคัดเลือก " โดยผู้รับจ้างเสนอราคา 9,600,000 บาท โดยประกาศทางเว็บไซต์ไปรษณีย์ไทย ตั้งแต่เดือนตุลาคม พ.ศ.2562 เช่นเดียวกับอีก 3 โครงการของไปรษณีย์ จ.ปทุมธานี ที่ใช้วิธีคัดเลือกเช่นกัน
โครงการปรับปรุงที่ทำการไปรษณีย์ 4 แห่ง ในจังหวัดปทุมธานี ว่าจ้างผู้รับเหมา 2 ราย คือ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เจ.ดับบลิว เทคโนโลยี รับงานปรับปรุงไปรษณีย์คูคต และบริษัท เจเนอรัล เอ็นจิเนียริ่ง เซอร์วิส จำกัด รับงานปรับปรุงไปรษณีย์ปทุมธานี คลองหลวง และ ธัญบุรี โดยผู้รับเหมาทั้ง 2 ราย รับงานโดยผ่านวิธีคัดเลือก ไม่ใช้วิธีประกวดราคา คือ ไปรษณีย์ปทุมธานี เลือกผู้รับเหมาด้วยตัวเอง
ในเอกสารการว่าจ้าง ของทั้ง 4 แห่ง อ้างเหตุผลที่ต้องใช้วิธีคัดเลือก โดยระบุว่า มีความจำเป็นเร่งด่วนที่ต้องใช้พัสดุนั้น อันเนื่องมาจากเกิดเหตุการณ์ที่ไม่อาจคาดหมายได้ ซึ่งหากใช้วิธีประกาศเชิญชวนทั่วไปจะทำให้ไม่ทันต่อความต้องการใช้พัสดุ
พระราชบัญญัติการจัดซื้อจัดจ้าง และการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ.2560 กำหนดให้การการจัดซื้อจัดจ้างที่จะใช้วิธีคัดเลือก แทนวิธีประกวดราคา จะต้องมีเหตุผลรองรับ เช่น ไม่มีผู้ยื่นขอเสนอหลังประกาศเชิญชวน เป็นพัสดุที่มีลักษณะเฉพาะเจาะจงหรือต้องใช้ความชำนาญเฉพาะทาง มีความจำเป็นเร่งด่วน เป็นพัสดุที่มีข้อจำกัดทางเทคนิค เป็นพัสดุที่จัดซื้อโดยตรงจากต่างประเทศหรือผ่านองค์กรระหว่างประเทศ เป็นพัสดุที่เกี่ยวข้องกับงานด้านความมั่นคง
อดีตผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน แสดงความเห็นว่า การไม่ใช้วิธีประกวดราคา ต้องอยู่ภายใต้หลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่ได้รับข้อยกเว้น และไม่ทำให้รัฐเสียประโยชน์ แต่โครงการนี้ไม่น่าจะเข้าหลักเกณฑ์ให้ต้องใช้วิธีคัดเลือก
เมื่อพิจารณาการปรับปรุงอาคารไปรษณีย์ทั้ง 4 แห่ง อดีตผู้ว่าฯ สตง. เห็นว่า เป็นโครงการที่ต้องผ่านการออกแบบอาคาร และสำรวจความต้องการใช้งาน สามารถวางแผนล่วงหน้าเพื่อตั้งงบประมาณได้ จึงอาจไม่เข้าเงื่อนไขจำเป็นเร่งด่วนตามข้ออ้างของไปรษณีย์ไทย
หลักเกณฑ์การจัดซื้อจัดจ้างโดยทั่วไป วิธีการประกวดราคาถือเป็นวิธีที่โปร่งใสที่สุด เพราะรัฐมีสิทธิ์เลือกผู้รับเหมาที่เสนอราคาต่ำที่สุดภายใต้งานแบบเดียวกัน ขณะที่การวิธีคัดเลือก เปิดทางให้เจ้าหน้าที่รัฐใช้ดุลพินิจตัวเองเลือกผู้รับเหมา