วันนี้ (4 พ.ค. 58) พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหมและผู้บัญชาการทหารบก เดินทางลงพื้นที่ จ.ระนอง และ จ.สงขลา เพื่อติดตามความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาขบวนการค้ามนุษย์ หลังจากมีการพบหลุมศพชาวโรฮิงญา
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีและรองนายกฯ ฝ่ายความมั่นคง เป็นห่วงปัญหาดังกล่าวที่มีขบวนการลักลอบนำคนหลบหนีเข้าเมืองอย่างผิดกฎหมายแล้วพามาพักตัวที่ประเทศไทยก่อนส่งตัวไปยังประเทศที่ 3 ซึ่งถือเป็นภัยร้ายแรง จึงต้องแก้ไขปัญหานี้ให้ได้ และจากนี้ต้องทำงานกันอย่างจริงจังและไม่ตกอยู่ใต้อิทธิพลของใคร เพื่อให้ขบวนการเหล่านี้หมดไปจากประเทศไทย อีกทั้งไทยต้องไม่ตกเป็นเป้าหมายการค้ามนุษย์ในสายตาของนานาชาติ สำหรับการลงพื้นที่ จ.ระนอง ก็ถือเป็นจุดเริ่มต้นของขบวนการค้ามนุษย์ที่นำคนมาทางเรือ
ส่วนกระแสข่าวชาวโรฮิงญา 700 คน เดินทางหลบหนีไปประเทศมาเลเซียแล้วนั้น มองว่าขณะนี้ต้องสนใจว่าการแก้ไขปัญหาค้ามนุษย์ในอดีตถูกต้องหรือไม่ แต่เชื่อว่าน่าจะมีความเชื่อมโยงกันทั้ง 2 ประเทศ และไม่ใช่ขบวนการเล็กๆ เพราะมีการดำเนินการมาระยะหนึ่งแล้ว สำหรับกรณีตำรวจเตรียมออกหมายจับเจ้าหน้าที่บางส่วนที่เกี่ยวข้อง ขอย้ำว่า ยังไม่สามารถเปิดเผยรายชื่อได้ แต่จากหลักฐานและความเชื่อมโยงน่าจะมีความชัดเจนบ้าง
ด้าน พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวก่อนเดินทางพื้นที่ จ.สงขลา ว่าทางตำรวจมีการประสานและแลกเปลี่ยนข้อมูลกับทางทหารมาโดยตลอด ซึ่งจากการตรวจสอบขบวนการดังกล่าว ถือเป็นขบวนการค้ามนุษย์และอาชญากรรมข้ามชาติที่มีมานานแล้ว โดยเจ้าหน้าที่รัฐเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องด้วย ส่วนจะเป็นใครนั้นขอเวลาสืบสวนให้แน่ชัดก่อน นอกจากนี้ค่ายกักกันดังกล่าวก็อยู่ใกล้ค่ายของตำรวจตระเวนชายแดน จึงต้องสอบสวนอย่างละเอียด หากพบว่าใครมีส่วนรู้เห็นหรือมีเจตนาปล่อยปละละเลยจะถูกเอาผิดโดยไม่ละเว้น ล่าสุดได้ออกหมายจับไปแล้ว 3 ราย และเตรียมขออนุมัติหมายจับเพิ่มอีก 3 รายในเร็วๆ นี้