วันที่ 4 พ.ย.2562 นพ.ยงยุทธ วงค์ภิรมย์ศานติ์ ที่ปรึกษากรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงกรณีรับน้องรุนแรงในมหาวิทยาลัยแม่โจ้ จนเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก ว่า สุดท้ายเหยื่อความรุนแรงทนไม่ไหวก็ต้องลาออก ว่า เรื่องนี้ อยากเรียกร้องให้มหาวิทยาลัยแม่โจ้ แสดงบทบาทความรับผิดชอบ เพื่อแก้ปัญหา เพราะกิจกรรมการรับน้องสะท้อน ถึงแนวคิดและวัฒนธรรมของแต่ละสถาบัน ในอดีตมีแนวคิดว่าการกระทำรุนแรง ทำให้เกิดความยากลำบาก ท้ายสุดก็จะทำให้คนเรารักกัน เรื่องนี้ ใช้ไม่ได้จริงเสมอไป มีอีกหลายวัฒนธรรมความเชื่อ ที่จะทำให้รุ่นพี่และรุ่นน้องรักกันได้ โดยไม่ต้องใช้ความรุนแรง เพราะในที่สุดความรุนแรงที่ใช้ไปกับเยาวชน จะเป็นการบ่มเพาะให้เกิดระบบอุปถัมภ์ การยอมรับการใช้อำนาจความรุนแรง ซึ่งจะมีผลระยะยาวต่อทุกระบบ โดยเฉพาะราชการ เกิดการสืบทอดอำนาจ
ม.แม่โจ้ โร่ชี้แจง หลังแม่ร้องลูกชายถูกรุ่นพี่รับน้องโหด ชก-ทุบหลัง
“ ทางมหาวิทยาลัยต้องมีการเทรนนิ่งรุ่นพี่ สอนการดูแลเกื้อกูลระหว่างรุ่นพี่รุ่นน้อง และควบคุมไม่ให้เกิดการใช้ความรุนแรง เพราะ ในอนาคต หากเด็กได้รับความรุนแรง ก็จะทำให้เกิดอาการหวาดผวา รู้สึกไม่ปลอดภัย บางคนอาจมีผลต่อสุขภาพจิต จำเป็นต้องใช้มืออาชีพมาช่วยเหลือแก้ไข บางคนก็อาจไม่มี ไม่ใช่ทุกคนที่จะเกิดขึ้น ส่วนการพูดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นแล้ว จนเด็กตัดสินใจออกจากระบบ ไปนั้น ไม่มีประโยชน์ แต่การลงโทษรุ่นพี่ในเรื่องนี้ ไม่เท่ากับการแก้ระบบคิดและวัฒนธรรมที่เกิดประโยชน์ในระยะยาว” นพ.ยงยุทธ กล่าว
“น่าตกใจ” เหยื่อเด็กไทยเจอแกล้งในโรงเรียนปีละกว่าครึ่งล้าน
