ทีมจัดงาน“วิ่งไล่ลุง”ร้องกมธ.กฎหมาย ถูกตร.ห้ามแถลงข่าว
ผู้จัดงานวิ่งไล่ลุง ยัน จัดงานเหมือนเดิม แม้ถูกจนท.ขัดขวาง
สิ่งที่ นายธนวัฒน์ วงค์ไชย อดีตประธานสภานิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ผู้จัดกิจกรรมวิ่งไล่ลุง เปิดเผยกับทีมข่าวพีพีทีวี ว่า รู้สึกกังวลใจเป็นอย่างมาก หากวันที่ 12 มกราคมที่จะถึงนี้ ผู้มีอำนาจ หรือ เจ้าหน้าที่รัฐ ไม่ยินยอมให้ผู้ที่ลงทะเบียนกว่า 10,000 คน เข้าร่วมกิจกรรมวิ่งไล่ลุง แต่เบื้องต้นตนเองมีแผนรองรับไว้หมดแล้วหากมีกรณีดังกล่าวเกิดขึ้น พร้อมยังฝากเตือนไปยังผู้มีอำนาจว่าควรคิดถึงผลกระทบให้ดี
ส่วนมาตราการดูแลรักษาความปลอดภัยเบื้องต้นได้ประสานไปยัง เจ้าหน้าที่ตำรวจนครบาล และ สน.บางซื่อ เพื่อให้ดูแลรักษาความปลอดภัยของประชาชนที่มาร่วมงาน รวมถึงประสานไปยังสำนักสิ่งแวดล้อมกรุงเทพมหานครในการขอใช้พื้นที่ ที่บริเวณสวนรถไฟเรียบร้อยแล้ว
นายธนวัฒน์ ยอมรับว่า กิจกรรมนี้เกี่ยวข้องกับการเมือง โดยเรียกร้องอยู่ 3 ข้อ ประกอบด้วย
1.รัฐบาลต้องแก้ปัญหาเศรษฐกิจโดยเร็วตามที่ได้เคยหาเสียงเอาไว้
2.ต้องแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ปัญหาอยู่ในขณะนี้
3.ต้องหยุดใช้อำนาจเพื่อพวกพ้อง และต้องทำโดยทันที
ซึ่งหากปฎิบัติไม่ได้ก็อาจจะจัดกิจกรรมใหญ่อีกครั้งในเดือนเมษายนนี้ พร้อมตั้งคำถามถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ด้วยว่าถ้าหากนายกฯ ไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ ก็ควรลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี
สำหรับรายละเอียดในวันที่ 12 มกราคม นายธนวัฒน์ เปิดเผยว่า กิจกรรมการวิ่งจะเริ่มช่วงเวลา 05.00 น. และคาดว่ากิจกรรมทั้งหมดจะเสร็จสิ้นไม่เกิน 08.00 น. ซึ่งแม้จะเป็นการวิ่งที่เกี่ยวข้องกับการเมือง แต่ยืนยันว่าจะไม่มีการชุมนุม หรือปราศรัยใดๆ เพราะผิดกฎในการใช้สถานที่ และหากผู้ที่ร่วมกิจกรรมได้กระทำการในลักษณะดังกล่าว ทางทีมผู้จัดงานก้จะเข้าไปตักเตือนและสั่งห้ามทันที ส่วนกรณีกระแสในโซเชียลที่อ้างว่า โรงเรียนอนุกูลนารี จังหวัดกาฬสินธุ์ ได้ร่วมจัดกิจกรรมวิ่งไล่ลุงขึ้นด้วยนั้น
ล่าสุด นายเอกรักษ์ สารปรัง ผู้อำนวยการโรงเรียน ออกมายืนยันว่า ทางโรงเรียนไม่ได้ร่วมจัดกิจกรรมวิ่งไล่ลุง ตามที่เป็นกระแสข่าวแต่อย่างใด โดยทางแกนนำจัดกิจกรรมวิ่งไล่ลุง ได้มีการยื่นหนังสือขอใช้สถานที่จริง แต่ทางโรงเรียนไม่อนุญาตในการใช้สถานที่
จากนั้นกลุ่มดังกล่าวได้นำเอกสารฉบับนี้ไปกระจายในโลกโซเชียล ทำให้ประชาชนเกิดความเข้าใจผิด และทำให้ทางโรงเรียนเกิดความเสียหาย
ซึ่งเบื้องต้นทางผู้อำนวยการฯ ได้เดินทางไปลงบันทึกประจำวันเอาไว้เป็นหลักฐานกับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองกาฬสินธุ์ เมื่อวันที่ 2 มกราคมที่ผ่านมา เพื่อยืนยันว่าเรื่องดังกล่าวไม่เป็นความจริง และหากในอนาคตหากยังมีพฤติกรรมเช่นนี้อีก ทางโรงเรียนอนุกูลนารี ก็เตรียมที่จะแจ้งความดำเนินคดี ตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ ต่อไปด้วย
ผู้อำนวยการฯ กล่าวย้ำอีกว่า ที่ผ่านมาโรงเรียนไม่มีนโยบายข้องเกี่ยวกับทางการเมือง เพราะว่าโรงเรียนมีหน้าที่ขัดเกลาจิตใจ และพัฒนาคุณภาพทางการศึกษาให้กับนักเรียนเท่านั้น เพื่อพัฒนาเยาวชนให้เป็นบุคคลที่มีคุณภาพ จึงไม่ควรที่จะตกเป็นเครื่องมือของใคร