นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา ได้ชี้แจงประเด็นการเตรียมเสนอมาตรการ ชิม ช้อป ใช้ เวอร์ชั่นอินเตอร์ โดยระบุว่า หลังจากเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มการชะลอตัวของภาวะเศรษฐกิจโลกกับการแข็งค่าของเงินบาทที่ระดับสูงสุดในรอบ 6 ปี ซึ่งสูงขึ้นประมาณ 7% ทำให้การเดินทางท่องเที่ยวในประเทศไทยชะลอตัวลง เพราะนักท่องเที่ยวรู้สึกไม่คุ้มค่าที่จะเดินทาง ราคาแพงกว่าประเทศอื่น รัฐบาลจึงได้กำหนดกรอบแนวคิดในการกระตุ้น และสร้างแรงจูงใจให้กับนักท่องเที่ยวต่างชาติ
จ่อออก “ชิมช้อปใช้ อินเตอร์” แจกคูปองเงินสดชาวต่างชาติ ที่มาเที่ยวไทย
โดยมาตรการนี้ นักท่องเที่ยวจะต้องใช้จ่ายในประเทศไทยอย่างน้อย 30,000 บาท ภายใต้ 4 หมวดการใช้จ่าย ได้แก่ บัตรโดยสารภายในประเทศ ที่พัก ร้านอาหาร และค่าใช้จ่ายสถานที่ท่องเที่ยวประเภท Man Made/Theme Park และจะได้รับเงินคืน 7% แต่ไม่เกิน 3,500 บาทต่อคน
โดยจะได้รับเงินคืนเป็นสกุลเงินบาท และจะต้องใช้จ่ายภายในประเทศไทยเท่านั้น โดยนักท่องเที่ยว 1 คนสามารถใช้สิทธิ์นี้ได้เพียง 1 ครั้งต่อปี ซึ่งจะส่งผลให้เกิดการหมุนเวียนด้านเศรษฐกิจทางการท่องเที่ยวภายในประเทศต่อ พร้อมกับเป็นการแสดงความขอบคุณที่เลือกเดินทางท่องเที่ยวในประเทศไทย และไม่ใช่เป็นการแจกคูปองเงินสดเพื่อใช้ช้อปปิ้ง ตามที่เป็นข่าว รวมถึงกรอบแนวคิดดังกล่าวอยู่ในระหว่าง ขั้นตอนการพิจารณาเพื่อนำเสนอเข้าสู่คณะรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจ ซึ่งจะต้องมีการพิจารณาอย่างละเอียดถี่ถ้วนหลายขั้นตอน
โดยมาตรการนี้ จะให้สิทธิ์แก่นักท่องเที่ยวต่างชาติจำนวน 2,850,000 คน และมีการใช้จ่ายเฉลี่ยคนละประมาณ 49,560 บาท ต่อคนต่อครั้ง ทำให้เกิดรายได้ทางการท่องเที่ยวจากกลุ่มดังกล่าว เป็นมูลค่า 141,600 ล้านบาท เข้าสู่ประเทศไทย
“เพื่อไทย” ซัด “ชิม ช้อป ใช้ อินเตอร์” คิดเยอะๆก่อนเอาภาษีปชช.มาแจก