ศบค. ย้ำ คลายล็อกดาวน์ อย่าประมาท โควิด-19 แนะสวมหน้ากาก-เว้นระยะห่างทางสังคม

โดย PPTV Online

เผยแพร่ 3 พ.ค. 2563,18:56น.

ปรับปรุงล่าสุด 18 พ.ย. 2563,17:00น.

ศบค. แถลงพบผู้ติดเชื้อ โควิด-19 3 คน ยอดสะสมผู้ติดเชื้อยืนยัน 2,969 คน แนะยึดหลัก ศบค.แนะนำมาตั้งแต่ต้น โดยเฉพาะการสวมใส่หน้ากากอนามัยและการเว้นระยะห่างทางสังคม แม้จะเริ่มผ่อนปรนมาตรการล็อกดาวน์

ศบค. ย้ำ คลายล็อกดาวน์ อย่าประมาท โควิด-19 แนะสวมหน้ากาก-เว้นระยะห่างทางสังคม

อัปเดตข่าว โควิด-19 (COVID-19) ล่าสุด 3 พ.ค. 63

อัปเดตข่าว สถานการณ์ โควิด-19 ทั่วโลก ล่าสุด 3 พ.ค. 63

เมื่อวันที่ 3 พ.ค. 2563 นายแพทย์ ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษก ศบค. แถลงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรค โควิด -19 ในประเทศไทย ล่าสุดมีผู้ติดเชื้อ 3 คน ทำให้มียอดสะสมผู้ติดเชื้อยืนยัน 2,969 คน มีผู้ที่ได้รับการรักษาหายและได้รับอนุญาตให้กลับบ้านได้อีก จำนวน 7 คน รวมเป็นที่กลับบ้านทั้งหมด 2,739 คน รักษาอยู่ขณะนี้ 176 คน ไม่มีผู้เสียชีวิต โดยวันนี้ถือเป็นวันแรกของการผ่อนปรนมาตรการล็อกดาวน์ ซึ่งจะมีการเฝ้าระวังอย่างเต็มที่ และขอให้ยึดหลักตามที่ ศบค.แนะนำมาตั้งแต่ต้น โดยเฉพาะการสวมใส่หน้ากากอนามัยและการเว้นระยะห่างทางสังคม

ด้าน พลเอก พรพิพัฒน์ เบญญศรี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ในฐานะหัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านความมั่นคง ระบุว่า สองวันที่ผ่านมาเกิดการเดินทางเป็นจำนวนมากเพราะอาจเกิดความคาดเคลื่อนในการสื่อความหมายของการผ่อนคลาย คือการผ่อนคลายจากมาตรการที่เคยปิดให้มาเปิดได้ ไม่ใช่ให้เราผ่อนคลายความเข้มงวดที่เคยมี อาจจะเข้าใจว่าเราการ์ดตกได้บ้าง จึงต้องทำความเข้าใจกันใหม่ว่าเรายังการ์ดตกไม่ได้ และขอให้การเดินทางเป็นไปตามคำแนะนำของรัฐบาลคือต้องสวมหน้ากาก เว้นระยะ ทำความสะอาดมือ และเมื่อเดินทางไปแล้วยอมรับมาตรการที่จะมีการตรวจสอบในการเดินทาง และขอให้สนับสนุนทำงานอยู่กับบ้าน ทำงานเหลื่อมเวลา ยึดหลักเดิมไว้เพื่อประคองตัวเลขผู้ติดเชื้อใหม่ให้น้อยอยู่เช่นนี้

ขณะที่ นพ.บัญชา ค้าของ รองอธิบดีกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ชี้แจงกรณีที่ประชาชนแห่ออกจากต่างจังหวัดใน 1-2 พฤษภาคมที่ผ่านมา ว่า สิ่งที่กังวลว่าจะเกิดขึ้นหลังจากนี้ 14 วัน คือ หลังจากกลับไปแล้วไม่ยอมกักตัวอยู่บ้าน ทำให้ผู้ที่เดินทางกลับภูมิลำเนาไปแล้วอาจมีโอกาสติดเชื้อหรือแพร่เชื้อได้มากขึ้น โดยพฤติกรรมที่น่ากังวลมากที่สุด คือ การสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยรายก่อนหน้า ที่มีความเสี่ยงในการติดเชื้อสูงถึง 41.53% เช่น กลับบ้านไปแล้วไปกอด ไปกราบคุณพ่อคุณแม่ กับอีกกรณีที่ให้ระมัดระวัง คือ การไปสถานที่ชุมชน เช่น ตลาดนัด สถานที่ท่องเที่ยว

โดยส่วนกรณีการผ่อนปรนให้ 6 กิจการ นายแพทย์บัญชา เน้นย้ำว่าขอให้ผู้ประกอบการปฏิบัติตามหลักการป้องกันโรค มี 5 ขั้นง่าย ๆ หรือ ป้อมปราการ 5 ด่านต้าน โควิด -19ได้แก่ การคัดกรองไข้ สามารถกันได้ถึง 87% ขั้นต่อมาคือให้สวมหน้ากากอนามัย ที่มีการลดป้องกันการแพร่เชื้อได้ 80% เมื่อรวมกับการล้างมือ ที่ลดการติดเชื้อได้ 90% การเว้นระยะห่างที่ลดการติดเชื้อได้อีก 70% โอกาสการแพร่เชื้อก็ลดน้อยลง สร้างความมั่นใจได้เพิ่มมากขึ้นแล้ว โดยย้ำว่า “ผู้ประกอบการ คือ แม่ทัพคุมด่านต้านโควิด”