เมื่อวันที่ 25 พ.ค. 2563 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากสถานการณ์ไวรัส โควิด-19 ได้ส่งผลกระทบเป็นวงกว้างและเฉียบพลัน โดยกระทรวงการคลัง ระบุว่า เห็นสัญญาณตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมา จึงได้มีมาตรการออกมาเป็นระยะ เช่น มาตรการชิมช้อปใช้ มาตรการสินเชื่อเฉพาะกิจ เมื่อผลกระทบ โควิด-19 รุนแรง จึงได้มีมาตรการระยะ 2 ที่ออกมา
เช็คเงินเยียวยาเกษตรกร 15,000 บาท ธ.ก.ส.เตรียมโอนอีก 2 ล้านราย ภายใน 28 พ.ค. นี้
ล่าสุด นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ทุกโครงการของกระทรวงการคลังที่จัดทำขึ้นไม่ว่าจะเป็นการเยียวยา 5,000 บาท จะไม่ใช่การให้เงินแล้วจบ แต่ทุกโครงการต้องดูแลเยียวยาอย่างต่อเนื่อง พร้อมยอมรับว่า แม้จะมีการผ่อนปรนให้เปิดดำเนินธุรกิจแล้ว แต่เศรษฐกิจก็ไม่ได้กลับมาฟื้นในทันที วันนี้จึงเตรียมออกมาตรการระยะต่อไปที่จะใช้เงินจาก พ.ร.ก.เงินกู้ฉุกเฉิน เพื่อเยียวยาเศรษฐกิจ เป็นระยะที่ 3 ภายใต้ชื่อโครงการ “ก้าวต่อไปเราไม่ทิ้งกันสู้ภัยโควิด-19”
“สนธิรัตน์ “เชื่อรัฐบาลผ่านฉลุยศึกซักพ.ร.ก.กู้เงินฯ โควิด-19
สำหรับโครงการในระยะที่ 3 ประกอบด้วย การจัดตั้งทีม “เราไม่ทิ้งกัน” หน่วยงานกระทรวงการคลัง สำรวจ เยียวยา ฟื้นฟูอาชีพให้ประชาชนโดยเร็ว ซึ่งจะใช้ข้อมูลที่ได้รับมาจากโครงการก่อน ๆ มาต่อยอด โครงการต่อมา คือ จัดคลินิก “คลังสมอง หมอคลัง” เราไม่ทิ้งกัน ให้คำปรึกษาเรื่องราวร้องทุกข์ต่าง ๆ ด้านอาชีพ บริการการเงิน ปัญหาหนี้นอกระบบ ผ่านสาขาของธนาคารเพื่อได้รับเรื่องแล้วจะออกนโยบายเพื่อช่วยเหลือต่อไป และโครงการสุดท้าย ภาคธนาคารเฉพาะกิจ เตรียมออกผลิตภัณฑ์ชุดใหม่ เพื่อดูแลลูกค้า อย่างต่อเนื่องให้ดูแลฟื้นฟูเศรษฐกิจได้ต่อเนื่อง เช่น ธอส.เตรียมสินเชื่ออีก 20,000 ล้านบาท สำหรับคนในครอบครัวผู้ที่ได้รับผลกระทบ ดอกเบี้ย 1.99% ต่อปี คงที่ 2 ปีแรก กับโครงการบ้าน ธอส. เราไม่ทิ้งกัน ธนาคารออมสิน เตรียมวงเงินปล่อยสินเชื่อใหม่ 40,000 ล้านบาท ดอกเบี้ยต่ำ ให้ผ่อนเบา ๆ
