โดยการซื้อขายดัชนีหุ้นไทย ( 22 มิ.ย.63) ปิดการซื่้อขาย อยู่ที่ 1,352.18 จุด ปรับตัว -18.64 จุด หรือคิดเป็น -1.36% มูลค่าการซื้อขาย 65,772.37 ล้านบาท (เมื่อเวลา 17:02:59 น.)
"สมคิด" โยนถามคนปล่อยข่าว "ประยุทธ์" ปลอบใจไม่ปรับ ครม.
ตัวเลขเป็น 0 ติดต่อกัน 28 วัน แต่พบติดเชื้อ โควิด-19 รายใหม่ 3 รายกลับจากอินเดีย
การซื้อขายดัชนีหุ้นไทยตลอดครึ่งวันเช้า ( 22 มิ.ย.63) อยู่ที่ 1,356.22 จุด ปรับตัว 14.60 จุด หรือคิดเป็น -1.06 % มูลค่าการซื้อขาย 35,583.63 ล้านบาท (เมื่อเวลา 12.45น.)
ขณะที่หุ้นกลุ่มธนาคารซึ่งเป็นที่จับตา ก็เป็นไปตามคาด ปรับตัวลดลงฉุดตลาดมากที่สุด โดยเฉพาะ 3 แบงก์ใหญ่ ได้แก่ BBL SCB และ KBANK ที่ราคาหุ้นปรับลดลงราว 5-6%
ไขข้อข้องใจทำไมแบงก์ชาติ ขอให้แบงก์พาณิชย์งดจ่าย "เงินปันผลระหว่างกาล - งดซื้อหุ้นคืน"
เปิดการซื้อขายดัชนีหุ้นไทยเช้าวันจันทร์ ( 22 มิ.ย.63) อยู่ที่ 1,362.32 จุด ปรับตัว -8.50 จุด หรือคิดเป็น 0.62 % มูลค่าการซื้อขาย 7,435.57 ล้านบาท (เมื่อเวลา 10:05:06 น.)
บล.กสิกรไทย เปิดเผยว่า ฝ่ายวิจัยมีมุมมองเชิงลบต่อประเด็นดังกล่าว เพราะเป็นการส่งสัญญาณถึงสภาพคล่องและผลกระทบจาก โควิด-19 ที่อาจสูงกว่าเบื้องต้นที่ประเมินไว้ โดยปันผลกลุ่มธนาคารจะอยู่ที่ประมาณ 6-8% ต่อปี
ขณะที่ผลกระทบที่คาดว่าจะเกิดกับดัชนีตลาดหลักทรัพย์ คาดว่าจะปรับลดลง 7-10 จุด ในเช้าวันนี้ ( 22 มิ.ย.63) และคาดว่าจะเห็นการลงทุนเข้าในกลุ่มพลังงานและโรงไฟฟ้า เช่น PTTEP PTTGC TOP และ BGRIM
นอกเหนือจากปัจจัยภายในประเทศประเด็นแบงก์พาณิชย์แล้ว สัปดาห์นี้ยังมีปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ ผลการประชุมนโยบายการเงินของคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) การส่งออกเดือนพฤษภาคม และ สัญญาณการแพร่ระบาดซ้ำสองของ โควิด-19 ในหลายประเทศ
ปัจจัยต่างประเทศ ทั้งตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ และในวันที่ 24 มิ.ย. กองทุนการเงินระหว่างประเทศหรือ (IMF) จะเปิดเผยรายละเอียดแนวโน้มตัวเลขเศรษฐกิจโลกอีกด้วย
ธปท. สั่ง แบงก์ งดจ่ายปันผลระหว่างกาล-ซื้อหุ้นคืน
ธนาคารพาณิชย์พร้อมหนุน "นโยบายแบงก์ชาติ"