พาณิชย์ จ่อ คุมราคาหมู-ห้ามส่งออก ถ้าราคายังขึ้นต่อเนื่อง

นายวิชัย  โภชนกิจ  อธิบดีกรมการค้าภายใน ได้เชิญ สมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ และ สมาคมผู้เลี้ยงสุกรในแต่ละภูมิภาคพร้อมห้างค้าปลีกค้าส่ง ห้างสรรพสินค้า รายใหญ่  มาหารือสถานการณ์ราคาสุกรที่ขยับสูงขึ้น เมื่อวันศุกร์ที่ 17 กรกฎาคม 2563 และ วันจันทร์ที่ 18 กรกฎาคม 2563 ซึ่งได้ข้อสรุป ดังนี้

สมาคมผู้เลี้ยงสุกร ดีเดย์ 21 ก.ค. ขายหมูลดค่าครองชีพ ส่งตรงจากฟาร์ม

“สถานการณ์ราคาสุกรที่ปรับสูงขึ้นในขณะนี้ มีปัจจัยสาเหตุจากปริมาณสุกรที่ผลิตได้ในปี 2563 มีจำนวนลดลงจากปีก่อน รวมถึงต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้นในส่วนของการปรับปรุงระบบฟาร์มเพื่อป้องกันโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร (AFS)”

กรมการค้าภายใน จึงกำหนดมาตรการบริหารจัดการอุปทาน และ ราคาสุกรในประเทศ ซึ่งจะใช้มาตรการเป็นลำดับ ตามความรุนแรงของปัญหา อันดับแรก ขอให้สมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ แจ้งสมาชิกทั่วประเทศ ช่วยดูแล ด้านปริมาณให้มีเพียงพอ และ ตรึงราคาขาย สุกรมีชีวิตหน้าฟาร์ม ที่จำหน่ายในประเทศ ไม่เกิน กิโลกรัมละ 80 บาท 

ราคาหมูแพง! ส.ส.พลังประชารัฐ แนะ กินเนื้อไก่แทนหมู

ต่อมา ขอให้ห้างค้าปลีกค้าส่งขนาดใหญ่ กำหนดราคาขายปลีกเนื้อหมู ชิ้นส่วนสะโพก และไหล่ ที่ กิโลกรัมละ 150 บาท และสันนอก กิโลกรัมละ 160 บาท พร้อมสั่งการสำนักงานพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศ จัดจำหน่ายเนื้อสุกร ในราคา ไม่เกินกิโลกรัมละ 130 บาท เพื่อบรรเทาค่าครองชีพผู้บริโภคในพื้นที่ โดยเริ่มภายในสัปดาห์นี้

และหากสถานการณ์ไม่คลี่คลายลงโดยมีการปรับราคาสุกรมีชีวิต และราคาขายปลีกเนื้อหมูสูงขึ้น กรมฯ จะนำเสนอคณะกรรมการ กกร.พิจารณาควบคุมราคา โดยกำหนดเพดานราคาขายสุกรมีชีวิตหน้าฟาร์มและราคาขายเนื้อหมู ไม่เกินกิโลกรัมละ 80 บาท และ 150 บาท ตามลำดับ

อย่างไรก็ตาม  กรณีพบว่า มีการส่งออกสุกรเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญและทำให้ปริมาณสุกรในประเทศ ไม่เพียงพอกับความต้องการของตลาด และราคาสุกรในประเทศปรับสูงขึ้นจนกระทบต่อผู้บริโภค “จะเสนอให้จำกัดการส่งออกหรือห้ามการส่งออก ในลำดับต่อไป”