วันนี้ (18 มิ.ย. 58) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ธนาคารกลางกรีซ ออกรายงานวิเคราะห์การเจรจาเรื่องความช่วยเหลือทางการเงินระหว่างกรีซกับบรรดาเจ้าหนี้ว่า อาจนำไปสู่การผิดนัดชำระหนี้ ซึ่งจะทำให้กรีซต้องพ้นจากการเป็นสมาชิกของกลุ่มยูโรโซน รวมถึงการเป็นสมาชิกของสหภาพยุโรป (อียู) รายงานระบุด้วยว่า เศรษฐกิจของกรีซอาจตกต่ำลงไปกว่าเดิมอีก หากทุกฝ่ายไม่สามารถบรรลุข้อตกลงได้ทันภายในวันที่ 30 มิ.ย. นี้
คำเตือนดังกล่าวของธนาคารกลางกรีซถือเป็นสัญญาณเตือนอย่างเป็นทางการครั้งแรก ขณะที่รัฐบาลกรีซและกลุ่มเจ้าหนี้จากสหภาพยุโรป ยังคงกล่าวโทษกันและกันที่ตั้งเงื่อนไขจนทำให้ไม่สามารถตกลงเรื่องความช่วยเหลือทางการเงิน จำนวน 7,200 ล้านยูโรได้ โดยกลุ่มเจ้าหนี้ต้องการให้กรีซรัดเข็มขัดมากขึ้น โดยขอให้ตัดลดเงินบำนาญลงร้อยละ 1 ของ GDP แต่รัฐบาลกรีซ ยืนกรานปฏิเสธเงื่อนไขนี้ รวมถึงไม่ยอมลดเงินเดือนพนักงานของรัฐ และขึ้นภาษีสินค้าจำเป็น
ด้านนายยานิส วาโรฟากิส รัฐมนตรีคลังกรีซ ให้ความเห็นว่า ไม่เชื่อว่าจะมีการบรรลุข้อตกลงใดๆในการประชุมรัฐมนตรีคลังกลุ่มประเทศยูโรโซนวันนี้
ขณะที่ชาวกรีซหลายพันคนชุมนุมด้านหน้าอาคารรัฐสภาในกรุงเอเธนส์ เพื่อแสดงพลังสนับสนุนรัฐบาลก่อนที่จะมีการเจรจากับกลุ่มเจ้าหนี้นัดสุดท้าย โดยผู้ชุมนุมต่างคัดค้านมาตรการรัดเข็มขัดเพิ่มเติมตามที่กลุ่มเจ้าหนี้เรียกร้อง