“สิระ” เตรียมเรียก ผบ.ตร.-อสส.แจงปม “บอส อยู่วิทยา” หลุดคดี
รพ.รามาฯ พบ"โคเคน"ในร่างกาย"บอส อยู่วิทยา"แต่ไม่มีในสำนวน
นายสิระ เจนจาคะ สส. กทม.พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) ประธานกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน เปิดเผยว่า ในวันที่ 5 ส.ค.จะมีการประชุมร่วม 3 กมธ. คือกมธ.กฎหมายฯ กมธ.ศาลฯ และกมธ.ตำรวจ เพื่อพิจารณาคดีนายวรยุทธ อยู่วิทยา นายสิระ ขอให้ประชาชนเชื่อมั่นว่า กมธ.จะตรวจสอบให้ความกระจ่างกับคดีนี้ ไม่มีการช่วยเหลือกัน หากไม่กระจ่างก็จะตรวจสอบอีกรอบหนึ่ง ซึ่งในวันที่ 5 ส.ค.จะได้คำตอบว่า การลงนามสั่งไม่ฟ้องนั้นใช้ดุลยพินิจอะไร รวมทั้งเรื่องยาเสพติดที่ยังติดใจกันอยู่ และการวิ่งเต้นแทรกแซงมีหรือไม่ โดยในการประชุมวันดังกล่าว กมธ.จะมีการไลฟ์สดเปิดเผยให้ประชาชนได้รับทราบเพื่อให้คลายข้อสงสัย
สำหรับรายชื่อผู้ที่เกี่ยวข้องกับสำนวน และการสั่งไม่ฟ้องคดีบอส วรยุทธ อยู่วิทยา นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.พรรคก้าวไกล หนึ่งในกรรมาธิการกฎหมายฯ สภาผู้แทนราษฎร ได้เสนอรายชื่อต่อประธานฯให้เรียกมาในสัปดาห์หน้า โดยนายสิระ รับข้อเสนอแล้วมีรายชื่อดังนี้
-นายสมัคร เชาวภานันท์ สว. (ในขณะนั้น) ซึ่งรับเป็นทนายความประจำตระกูลอยู่วิทยา
-นายพินันพ์ ลักษณ์ศิริ อัยการผู้เชี่ยวชาญพิเศษ สำนักงานคดีกิจการอัยการสูงสุด คนลงนามยกคำร้องขอความเป็นธรรมบอส โดยให้เหตุผลว่า ประจักษ์พยาน 2 คนและข้อมูลของการคำนวณความเร็วของอ.สายประสิทธิ์ไม่ใช้พยานหลักฐานใหม่
-นายเนตร นาคสุข อธิบดีอัยการ สำนักงานคดีศาลสูงสุด คนลงนามคำสั่งไม่ฟ้อง บอส วรยุทธ
-นายฤชา ไกรฤกษ์ อัยการเจ้าของสำนวน
-พล.ต.ท.เพิ่มพูน ชิดชอบ ผู้ช่วย.ผบ.ตร. ด้านกฎหมายและสอบสวน ซึ่งเป็นผู้ลงนามไม่แย้งคำสั่งไม่ฟ้องนายวรยุทธ
-ศ.ดร. สายประสิทธิ์ เกิดนิยม พยานบุคคลผู้เชี่ยวชาญ ที่คำนวณความเร็วของรถยนต์และรถจักรยานยนต์ ยืนยันว่า ความเร็วโดยประมาณของรถยนต์ Ferrari FF ก่อนเกิดเหตุ 76.175 กม.ต่อชั่วโมง
- พ.ต.ต. ชวลิต เลาหอุดมทรัพย์ อดีตข้าราชการตำรวจกองพิสูจน์หลักฐานกลาง (ปัจจุบัน ส.ส.ก้าวไกล) ซึ่งทำหน้าที่ตรวจพยานหลักฐานในคดีตอนนั้นและ พล.ร.อ.ศิษฐวัชร วงษ์สุวรรณ อดีต ปธ.กรรมาธิการกฎหมาย ชุดที่บอส วรยุทธ ร้องขอความเป็นธรรม รวมทั้งพยานใหม่ 2 ปาก
นายสิระ ระบุว่าที่สำคัญ ได้เชิญนายวรยุทธ และทนายของนายวรยุทธมาด้วย หากไม่ยอมมาชี้แจงต่อ กมธ.2 ครั้ง ก็จะออกคำสั่งเรียก ตาม พ.ร.บ.คำสั่งเรียก แต่ถ้าไม่มาอีก ก็จะดำเนินคดีตาม พ.ร.บ.คำสั่งเรียก ทั้งนี้ ตนอยากให้นายวรยุทธ เข้ามาชี้แจงกับ กมธ.เพราะเป็นผู้ที่อยู่ในที่เกิดเหตุ ประชาชนจะได้รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น
ส่วนกรณีที่ตำรวจยืนยันต่อที่ประชุม กมธ.เมื่อวันที่ 29 ก.ค.ที่ผ่านมา ว่าประเด็นพบสารแปลกปลอมที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดในร่างกายของนายวรยุทธนั้น มีอยู่ในสำนวนการสอบสวน แต่ไม่ได้ตอบชัดเจนว่าเหตุใดจึงไม่ตั้งข้อหานี้ตั้งแต่ต้น แต่เบื้องต้นจากการพูดคุยทราบว่า ตำรวจกำลังจะตั้งข้อหานี้ขึ้นมาใหม่ ในเฉพาะส่วนของยาเสพติด เพราะมีหลักฐานจากการตรวจสอบของโรงพยาบาลรามาธิบดีชัดเจน
ล่าสุด นายสิระ เปิดเผยว่า พยานที่เสียชีวิตเป็นหนึ่งคนที่ทาง กมธ.ได้ทำจดหมายเชิญมาให้ข้อมูลในวันที่ 5 สิงหาคมนี้ ขณะนี้ได้ประสานให้ตำรวจตรวจสอบสาเหตุการเสียชีวิตอย่างละเอียด เพราะน่าสงสัยที่พยานมาเสียชีวิตในช่วงที่มีการตรวจสอบการทำคดีอย่างเข้มข้น แม้จะระบุว่าเกิดอุบัติเหตุก่อนเสียชีวิต แต่ต้องดูให้แน่ชัดว่าไม่ใช่เป็นการจัดฉากฆาตกรรม ซึ่งหลังจากนี้ได้ประสานผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ จัดคนดูแลความปลอดภัยพยานอีกหนึ่งคนแล้ว