เมื่อวันที่ 6 สิงหาคม ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) มีรายงานว่า เมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม ที่ผ่านมา พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา สำรองราชการ อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รองผบ.ตร.) ยื่นหนังสือร้องทุกข์ต่อคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ(ก.ตร.) กรณีถูกสั่งสำรองราชการ ว่า การแต่งตั้งกรรมการสอบวินัยร้ายแรง และคำสั่งสำรองราชการ ที่ออกโดยพล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.)มิชอบด้วยกฎหมาย
ด่วน! “จักรทิพย์” ลงดาบ “วิระชัย” สั่ง สำรองราชการ
ย้อนชนวนย้าย 'วิระชัย' แม้คัมแบค แต่ไม่จบ ลุ้นผลสอบคลิปเสียง 'บิ๊กแป๊ะ' ชี้ชะตา
มีรายงานว่าขั้นตอนหลังจากนี้ คณะอนุกรรมการข้าราชการตำรวจ หรืออนุ ก.ตร.เกี่ยวกับการร้องทุกข์ ที่มีพล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รองผบ.ตร.เป็นประธาน จะเป็นผู้พิจารณาคำร้องดังกล่าว โดยตามกำหนดคณะอนุก.ตร.ชุดนี้จะมีการประชุมพิจารณาเรื่องร้องทุกข์ในทุกวันศุกร์ ในสัปดาห์ที่ 3 ของเดือน เดือนนี้ตรงกับวันที่14สิงหาคม63 ทั้งนี้ หากผลการพิจารณาเห็นว่าคำร้องทุกข์ฟังขึ้น ก็จะมีคำสั่งยกเลิกคำสั่งสำรองราชการ พล.ต.อ.วิระชัย แต่หากพิจารณาแล้วเห็นว่าคำสั่งรองราชการชอบด้วยกฎหมายแล้ว พล.ต.อ.วิระชัย ก็มีสิทธิยื่นฟ้องต่อศาลปกครองได้ต่อไป
แหล่งข่าวระดับสูง ระบุว่า คำสั่งสำรองราชการไม่ใช่การลงโทษทางวินัย แต่เป็นการดำเนินการระหว่างการพิจารณาโทษทางวินัย ผู้ได้รับผลกระทบจากคำสั่งสำรองราชการดังกล่าว จึงต้องร้องทุกข์ต่อ ก.ตร. ซึโดยปกติ ก.ตร.ได้มอบอำนาจเด็ดขาดให้ อนุก.ตร.เกี่ยวกับการร้องทุกข์ พิจารณาเรื่องทุกข์ทุกเรื่อง ผลการพิจารณาออกมาอย่างไรก็เป็นไปตามนั้น เว้นแต่จะเป็นเรื่องสำคัญมาก อนุ ก.ตร.ร้องทุกข์ก็อาจทำความเห็นเพื่อให้ก.ตร.ชุดใหญ่พิจารณาอีกครั้ง
ทั้งนี้คำสั่งตั้งกรรมการสอบสวนวินัย ร้ายแรง และให้สำรองราชการ พล.ต.อ.วิระชัย ใจความสรุปว่า ตามคำสั่ง ตร.ที่ 383/2563 ลงวันที่ 24 ก.ค.แต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวน พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รอง ผบ.ตร.ซึ่งถูกกล่าวหากระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรง มีพฤติการณ์และการกระทำเข้าลักษณะมีเจตนาเปิดเผยความลับของทางราชการและฝ่าฝืนระเบียบคำสั่งว่าด้วยการให้ข่าวสัมภาษณ์ ก่อให้เกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของ ตร.อย่างร้ายแรง ประกอบกับกองปราบปรามรับคำร้องทุกข์ในกรณีกล่าวโทษว่ามีการกระทำอันเป็นการทำผิดต่อรัฐ เข้าข่ายตามความผิด พ.ร.บ.การประกอบกิจการโทรคมนาคม พ.ศ.2544 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ม. 74 และตามประกาศของคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขฉบับที่ 21 เรื่องการห้ามดักฟังทางโทรศัพท์และเครื่องมือสื่อสารอื่นใดนั้นจากกรณีแพร่คลิปเสียงสนทนาคดียิงรถ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล หรือบิ๊กโจ๊ก อดีตผบช.สตม.นายตำรวจคนดัง
สยบข่าว! 'บิ๊กป้อม' คัมแบ็คคุมตำรวจ 'บิ๊กตู่' ไม่ปล่อย ยัน ฟัง 'บิ๊กแป๊ะ'
ทั้งนี้คำสั่งให้พล.ต.อ.วิระชัย สำรองราชการ ส่งผลให้ตำแหน่งรองผบ.ตร.ว่างเพิ่ม1ตำแหน่งทันที ทำให้ในการแต่งตั้งโยกย้ายตำรวจวาระประจำปี 2563 ที่จะทำหลังแต่งตั้งผบ.ตร.คนใหม่ กลางเดือนนี้ จะมีการแต่งตั้งผู้ช่วยผบ.ตร.ได้ขึ้นเป็นรองผบ.ตร.ได้เพิ่มอีก1ตำแหน่ง จากเดิมที มีตำแหน่งว่างเพียง2ตำแหน่ง รวมเป็น 3 ตำแหน่ง หากแต่พล.ต.อ.วิระชัยร้องทุกข์ ยังไม่ยืนยันว่าส่งผลต่อการแต่งตั้งทดแทนในตำแหน่งเดิมของพล.ต.อ.วิระชัยหรือไม่
ประวัติ 'วิระชัย ทรงเมตตา' ตำรวจหมื่นล้าน ติดทำเนียบเศรษฐีไทย