ต้องยอมรับว่ารายได้จากของแรงงานต่างชาติที่เดินทางไปทำงานในต่างประเทศแถบเอเชียแปซิฟิก เช่น ออสเตรเลีย แคนาดา ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ จีน ฮ่องกง นิวซีแลนด์ ฯลฯ เป็นกำลังสำคัญส่งกลับมาจุนเจือครอบครัวที่ยากจน แต่เมื่อสถานการณ์โควิด-19 ไม่มีท่าทีจะยุติลงในเร็ววันรายได้ของแรงงานต่างชาติกลุ่มนี้ ย่อมได้รับผลกระทบให้คนกลุ่มนี้ว่างานและขาดรายได้เพื่อจุนเจือครอบครัวไปด้วย
อัปเดตข่าว สถานการณ์ โควิด-19 ทั่วโลก ล่าสุด 9 ส.ค.63
รัฐบาลกู้อีก 4.65 หมื่นล้านบาท จาก ธนาคารพัฒนาเอเชีย สู้โควิด-19
ตามรายงานของ ธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งเอเชีย (ADB) รายงานผลการศึกษาพบว่า รายได้จากแรงงานที่ทำงานในต่างประเทศในเอเชียแปซิฟิก จะ ลดลงไปถึง 5.43 หมื่นล้านดอลลาร์ เนื่องจากการว่างงานเป็นจำนวนมาก ตลอดจนการลดค่าจ้างในกลุ่มแรงงานต่างชาติจากผล กระทบของการแพร่ระบาดของ โควิด-19 โดยสัดส่วนของรายได้ที่ลดลงคิดเป็นสัดส่วน 19.8% ของเงินได้จากแรงงานที่ทำงานในต่างประเท
ในปี 2561 จำนวนแรงงานที่มาจากเอเชียแปซิฟิก มีสัดส่วน 33% ของแรงงานต่างชาติทั่วโลก แต่ในปี 2562 จำนวนแรงงานได้เพิ่มขึ้นไปอีก ส่งผลให้ในปี 2562 รายได้จากแรงงานที่ทำงานในต่างประเทศคิดเป็น 3.15 แสนล้านดอลลาร์ แต่เมื่อปีนี้ โควิด-19 ทำให้แรงงานเหล่านี้ไร้อาชีพ ไร้ค่าจ้าง อาจยิ่งซ้ำเติมความยากจนให้แย่ลงไปอีกก็เป็นได้
ญี่ปุ่นใกล้บรรลุข้อตกลงกับบริษัทผลิตยาจากอังกฤษเพื่อซื้อวัคซีนโควิด-19 ร้อยล้านโดส
มาซัทซุกุ อาซากาวา ประธาน ADB กล่าวว่า การระบาดครั้งนี้ได้ส่งผลกระทบอย่างหนักต่อเศรษฐกิจ สังคม และการพัฒนาในเอเชียและแปซิฟิก อีกทั้งยังฉุดรั้งความก้าวหน้าในการบรรเทาความยากจน และยังทำให้เศรษฐกิจประเทศต่าง ๆ ต้องเข้าสู่ภาวะถดถอย
นอกจากนั้น ประเทศที่พึ่งพารายได้จากแรงงานที่ทำงานในต่างประเทศและส่งกลับมายังครอบครัวที่มีสัดส่วนต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศสูง เช่น ตองก้า ซาเมา ฯลฯ ก็มีแนวโน้มว่า จะได้รับผลกระทบที่รุนแรงจากรายได้ที่ลดลงอันเนื่องมาจากการแพร่ระบาดของโควิด-19
สหรัฐฯ จ่ายพันล้านดอลลาร์ จองวัคซีนโควิด-19 ร้อยล้านโดส