“วัคซีน” ถือเป็นเรื่องเร่งด่วนที่นานาประเทศให้ความสำคัญ เพื่อควบคุมความเสียหายที่เกิดจากการระบาดของโรคโควิด-19 ซึ่งมีผู้ติดเชื้อแล้วกว่า 20 ล้านรายทั่วโลก เสียชีวิตแล้วกว่า 7.4 แสนราย และสร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจให้กับหลายประเทศ
อัปเดตข่าว สถานการณ์ โควิด-19 ทั่วโลก ล่าสุด 13 ส.ค.63
“อนุทิน” ลุ้น วัคซีนรัสเซียใช้ได้ผล ยัน ไทยร่วมมือหลายชาติไม่ตกขบวนวัคซีนโลก
การมี “วัคซีน” ในยุคโรคระบาดนี้ จึงเปรียบเสมือนกับการมีสัญลักษณ์แห่งอำนาจ ซึ่งสามารถนำไปใช้ต่อรองกับชาติอื่น ๆ ได้ ไม่จากจากยุคสงครามเย็นที่การครอบครอง “อาวุธนิวเคีลยร์” เท่ากับมีอำนาจเหนือชาติอื่น
การปรากฏตัวของ “Sputnuk-V” หรือวัคซีนโควิด-19 ของรัสเซีย ซึ่งได้รับการอนุมัติให้ใช้งานได้จริงเป็นชนิดแรกของโลก จึงคล้ายกับการเพิ่มอาจให้รัสเซียในทางหนึ่ง
นิวมีเดีย PPTVHD36 ไล่เลียงเส้นทางการเกิดขึ้นของวัคซีนชนิดนี้ และเหตคุผล ที่ทั่วโลกเป็นกังวลถึงประสิทธิภาพในการป้องกันโควิด-19 ของมัน
4 เดือนของความสำเร็จ
ในเดือนเมษายน รัสเซียปรับแก้กฎหมายเกี่ยวกับวัคซีน โดยระบุว่า สามารถอนุมติให้ใช้วัคซีนได้โดยยังไม่ต้องทำการทดสอบทางคลินิกเฟส 3
ในเดือนพฤษภาคม สถาบันวิจัยระบาดวิทยาและจุลชีววิทยาของ Gamaleya ประกาศว่าได้พัฒนาวัคซีนชนิด Adenovirus Vector ขึ้นมาตัวหนึ่ง ชื่อว่า “Gam-COVID-Vac”
เว็บไซต์ทางการของวัคซีน Sputnik-V ระบุว่า วัคซีนดังกล่าวได้ผ่านทุกขั้นตอนของการทดลองขั้นพรีคลินิก โดยมีการทดลองกับสัตว์ประเภทต่าง ๆ รวมถึงไพรเมต (จำพวกลิง) 2 ชนิด
18 มิถุนายน รัสเซียเริ่มการทดสอบ Gam-COVID-Vac ทางคลินิกเฟส 1 ในอาสาสมัคร 9 ราย
ในเดือนกรกฎาคม การทดสอบทางคลินิกเฟส 2 สิ้นสุดลง
วันที่ 1 สิงหาคม มิคาอิล มูรัชโก (Mikhail Murashko) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขรัสเซีย กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า “การทดสอบทางคลินิกได้เสร็จสิ้นแล้ว”
วันที่ 11 สิงหาคม ประธานาธิบดี วลาดิเมียร์ ปูติน ประกาศรับรองวัคซีน Gam-COVID-Vac โดยตั้งชื่อเล่นว่า “Sputnik-V” ตามชื่อดาวเทียมดวงแรกของรัสเซียเมื่อปี 1957 และจะเป็นชื่อที่จะใช้ในต่างประเทศ หากมีการซื้อขายในอนาคต
วันที่ 12 สิงหาคม เริ่มการทดสอบทางคลินิกระยะที่ 3 เพื่อทดสอบความปลอดภัยและประสิทธิภาพเพิ่มเติม จะทดสอบในอาสาสมัครมากกว่า 2,000 คนในรัสเซีย ยูเออี ซาอุดิอาระเบีย บราซิล เม็กซิโก อินเดีย และฟิลิปปินส์
สงครามเย็นยุคโรคระบาด! รัสเซีย ประกาศพัฒนาวัคซีนโควิด-19 สำเร็จชาติแรก
รัสเซีย อนุมัติใช้วัคซีน โควิด-19 ประเทศแรกในโลก
ขาดความน่าเชื่อถือ
เว็บไซต์ทางการเผยแพร่ข้อมูลว่า การทดสอบ Sputnik-V ทางคลินิกเฟสที่ 1 และ 2 มีผลลัพธ์น่าพึงพอใจ โดยวัคซีนกระตุ้นให้ร่างกายอาสาสมัครเกิดแอนติบอดีที่แข็งแกร่งและมีการตอบสนองของระบบภูมิคุ้มกันดี ไม่มีผู้เข้าร่วมการทดลองทางคลินิกในปัจจุบันแม้แต่รายเดียวที่ติดเชื้อโควิด-19
อย่างไรก็ตาม แวดวงการแพทย์และวิทยาศาสตร์ไม่ใคร่จะเชื่อถือและเห็นด้วยกับผลลัพธ์ดังกล่าว ตลอดจนการที่รัสเซียจะนำวัคซีนโควิด-19 มาใช้งานจริงก่อนการทดสอบเฟส 3 โดยเฉพาะเมื่อผลการทดสอบทางคลินิกเฟส 1 และ 2 ไม่ได้รับการเผยแพร่เป็นเอกสารอย่างเป็นทางการ ไม่ได้รับการตรวจซ้ำโดยผู้เชี่ยวชาญจากนานาชาติ ซึ่งเป็นขั้นตอนสำคัญในการรับรองงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์ และไม่ได้อยู่ในรายชื่อวัคซีนโควิด-19 ที่มีประสิทธิภาพขององค์การอนามัยโลก (WHO) ซึ่งได้จัดทำขึ้นเพื่อติดตามความก้าวหน้าของวัคซีนโควิด-19 ทั่วโลก
นักวิทยาศาสตร์ในเยอรมนี ฝรั่งเศส สเปน และสหรัฐอเมริกา ต่างเรียกร้องให้รัสเซียดำเนินการด้วยความระมัดระวัง และควรใช้วัคซีนจริงเมื่อผลการทดสอบทางคลินิกเป็นที่แน่ชัดและได้รับการรับรองโดยนานาชาตแล้วเท่านั้น
ด้านประธานาธิบดีปูตินออกมาโต้แย้งประเทศและองค์กรต่าง ๆ ที่ไม่เชื่อถือประสิทธิภาพวัคซีนโควิด-19 ของรัสเซียว่า เขามั่นใจในประสิทธิภาพของ Sputnik-V โดยลูกสาวคนหนึ่งของเขาเข้ารับการทดสอบวัคซีนในฐานะอาสาสมัคร
ขณะที่มูรัชโกบอกว่า “ดูเหมือนว่าบรรดาสหายร่วมวงการในต่างชาติของเรากำลังรู้สึกถึงข้อได้เปรียบทางการแข่งขันของอุตสาหกรรมยารัสเซีย และพยายามแสดงความคิดเห็นซึ่ง “ไร้เหตุผล” สุด ๆ”
เบื้องต้นคาดว่าจะมีการฉีดวัคซีนให้บุคลากรการแพทย์ภายใน 2 สัปดาห์ จะผลิตวัคซีน Sputnik-V จำนวนมากในเดือนกันยายน 2020 ประชาชนชาวรัสเซียจะได้รับวัคซีนอย่างทั่วถึงในเดือนตุลาคม 2020 ขณะที่ภายในปีนี้ จะสามารถผลิต Sputnik-V ได้ราว 500 ล้านโดสจากฐานการผลิตใน 5 ประเทศ
โดยปกติการทดสอบทางคลินิกในมนุษย์ ประกอบไปด้วย 3 เฟส ซึ่งการจดทะเบียน ผลิต และจำหน่ายวัคซีนจะต้องผ่านขั้นตอนทั้ง 3 เฟสก่อนจึงจะเป็นเครื่องยืนยันว่าวัคซีนชนิดนั้นปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ
โดยเฟส 1 จะเน้นทดสอบเรื่องความปลอดภัย ต้องการอาสาสมัครหลักสิบ ประมาณ 50 คน
เฟส 2 เน้นทดสอบความปลอดภัย และภูมิคุ้มกันวิทยา อาสาสมัครขยายจำนวนเป็นหลักร้อย เช่น 500 คน และเริ่มคัดเลือกโดสที่เหมาะสมในมนุษย์
เฟส 3 ทดสอบในอาสาสมัครจำนวนหลักพัน คละเชื้อชาติ อายุ เน้นทดสอบความปลอดภัย ภูมิคุ้มกัน และประสิทธิผลของวัคซีน หากวัคซีนตอบโจทย์ทั้ง 3 ข้อ จะสามารถพัฒนาเพื่อขึ้นทะเบียนต่อไปได้
ต้องรอดูกันต่อไปว่า Sputnik-V จะมีประสิทธิภาพยอดเยี่ยมจริงหรือไม่ และไทย จะมีโอกาสนำเข้าวัควีนชนิดนี้มาใช้ก่อนที่จะสามารถผลิตวัคซีนโควิด-19 ได้เองหรือเปล่า กระนั้นก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า “แสงแห่งความหวังที่ปลายอุโมงค์” ดูจะชัดเจนขึ้นแล้ว
ญี่ปุ่นใกล้บรรลุข้อตกลงกับบริษัทผลิตยาจากอังกฤษเพื่อซื้อวัคซีนโควิด-19 ร้อยล้านโดส
สหรัฐฯ จ่ายพันล้านดอลลาร์ จองวัคซีนโควิด-19 ร้อยล้านโดส
เรียบเรียงจาก BBC, CNN, Sputnikvaccine.com