กมธ.ถกปมความเร็ว 'บอส' ระอุ 'มนู' ป้อง 'สมยศ' ยันไม่มีใครแทรกแซง 'ธนสิทธิ' ยืนกราน
เผยแพร่
ปรับปรุงล่าสุด
'มนู เมฆหมอก' ให้ข้อมูลกมธ.การกฎหมาย หวิดเดือด 'รังสิมันต์' ตั้งคำถามเป่าคดี ยืนยัน 'สมยศ' ไม่เกี่ยว ชี้ไม่มีใครกดดันนักวิทยาศาสตร์ได้ เหตุสับสนเอง ด้าน 'ธนสิทธิ' ไม่กลัว ยืนกรานข้อมูล

คณะกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร ซึ่งมีนายสิระ เจนจาคะ เป็นประธาน เชิญ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.) พล.ต.อ.มนู เมฆหมอก รอง ผบ.ตร. รวมถึง นายธานี อ่อนละเอียด อดีตกรรมาธิการฯ ยุค สนช. ให้ข้อมูลกรณี ที่ พ.ต.อ.ธนสิทธิ แตงจั่น นักวิทยาศาสตร์ (สบ4)ผู้ออกรายงานผลคำนวณความเร็วรถนายวรยุทธ อยู่วิทยา หรือ "บอส อยู่วิทยา" ระบุว่าเปลี่ยนความเร็วรถ “บอส อยู่วิทยา” จาก 177 กม./ชม.เป็น 79 กม./ชม. เนื่องจากมีผู้บังคับบัญชาเรียกพบและแนะนำให้ดูการคำนวณ ของ ดร.สายประสิทธิ์ เกิดนิยม และนำมาใช้ในสำนวนคดี
กมธ.กฎหมายฯเรียก"สมยศ-จักรกฤช-ธานี"แจงคดี"บอส วรยุทธ" วันนี้
พล.ต.อ.มนู เมฆหมอก รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ อดีตผู้บัญชาการสำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ เผยในกรรมาธิการว่า ข้อมูลเบื้องต้นของ อจ.สายประสิทธิ์ เคยมาช่วยตำรวจทำคดีหลายคดี เช่นคดี นายชูวงษ์ แซ่ตั๊ง เคยเป็นอาจารย์บรรยายเรื่องความเร็วรถพฐ.แต่การเข้ามาในคดีนี้ เป็นเรื่องพนักงานสอบสวน ตนไม่ทราบ และคดีนี้ทางอัยการมีคำสั่งมาเรื่องให้สั่งสอบเพิ่ม จึงเรียกผู้เกี่ยวข้องมาพบกันและให้ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ วันนั้นเจอกัน 3 ฝ่าย คือ ดร.สายประสิทธิ์ พนักงานสอบสวน นำโดยพ.ต.อ.วิรดล ทับทิมดี พนักงานสอบสวนสน.ทองหล่อ และทีมกองพิสูจน์หลักฐาน นำโดยพล.ต.ต.ธวัชชัย เมฆประเสริฐสุข ผู้บังคับการศูนย์พิสูจน์หลักฐานกลางในตอนนั้น พร้อมพ.ต.อ.ธนสิทธิ ด้วยการคุยเป็นเรื่องของพนักงานสอบสวน กับนักวิทยาศาสตร์ ตนไม่ทราบ หลังจากนั้นตนก็ไม่ไปก้าวก่าย
"ยืนยัน พล.ต.อ.สมยศ อดีตผบ.ตร. ท่านไม่ได้มาในวันนั้น ไม่ได้อยู่ในห้องที่พบ 3 ฝ่าย อจ.สายประสิทธิ์ มากับพนักงานสอบสวน วันนั้นหากท่านอดีตผบ.ตร.มาจริงหรือไม่ แต่ที่แน่ๆไม่ได้มาห้องผม ไม่ได้มาสั่งการ กดดันอะไร ไม่มีใครสั่งนักวิทยาศาสตร์ได้ ผม หรือ ผบ.ตร.ก็สั่งนักวิทยาศาสตร์ ของพิสูจน์หลักฐานตำรวจไม่ได้ เพราะนักวิทยาศาสตร์คล้ายแพทย์ที่ต้องรับผิดชอบการตรวจ ไม่มีใครก้าวก่าย พฐ.คือนักวิทยาศาสตร์ นักวิทยาศาสตร์มีอิสระ มีความรับผิดชอบในผลรายงาน ที่ใครก็สั่งไม่ได้" พล.ต.ท.มนู กล่าว
พล.ต.อ.มนู กล่าวว่า ตนทราบเพียงว่า ดร.สายประสิทธิ์ มาพร้อมพนักงานสอบสวน ไม่มีผู้ใหญ่พามาและเป็นผู้เชี่ยวชาญจริงเคยช่วยทำหลายคดี
ด้าน พ.ต.อ.ธนสิทธิ แตงจั่น ยืนยันว่าได้ส่งเอกสารให้นายสิระ เจนจาคะแล้ว และยืนยันตามเอกสาร
ทั้งนี้นายรังสิมันต์ โรม กมธ.ได้อ่านเอกสารดังกล่าวที่ระบุว่า พ.ต.อ.ธนสิทธิ ให้ข้อมูลเป็นเอกสาร ยืนยันว่า ดร.สายประสิทธิ์ เดินทางมาพร้อม พล.ต.อ.สมยศ ฯ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าระหว่างการอ่านเอกสาร นายรังสิมันต์ ระบุว่า มีคนสงสัยว่า พล.ต.อ.มนู เป่าคดีนี้หรือไม่ ทำให้ พล.ต.อ.มนู ทวงถามว่ากล่าวหาตนเป่าคดี ได้อย่างไร และทวงถามอีกครั้งว่านายรังสิมันต์ยืนยันคำพูดหรือไม่ที่ว่าตนเองเป่าคดี นายรังสิมันต์แย้งว่าตนเพียงคำถามเท่านั้น เกิดการปะทะคารมเล็กน้อย
พ.ต.อ.ธนสิทธิ ย้ำในกมธฯว่า ตนไม่ขอพูดว่าผู้ใหญ่ที่พาดร.สายประสิทธิ มาคือใคร แต่ยืนยันตามเอกสารอีกครั้ง
พล.ต.ท.มนู กล่าวว่า แม้พ.ต.อ.ธนสิทธิจะยืนยันว่าใครพามา ก็ไม่มีผล
"ผมในฐานะ ผบช.สพฐ.ตร.ตอนนั้น อยู่พฐ.มา4 ปี ผมยืนยัน ผมหรืออดีตผู้บังคับบัญชาก็กดดันไม่ได้ เพราะนักวิทยาศาสตร์ต้องขึ้นศาลและต้องรับผิดชอบ ไม่ว่าใครจะพามาก็ไม่มีผล อยู่ที่นักวิทยาศาสตร์ที่ตรวจสอบและออกรายงาน ที่ฟังจากสื่อว่าพ.ต.อ.ธนสิทธิ โดนกดดันอะไรก็ไม่รู้ จริงๆถ้าบอกผมตั้งแต่ตอนนั้นว่าไม่สบายใจ ว่าทำงานไม่ได้ ก็จะไม่มีปัญหาถึงวันนี้"
จากนั้นนายรังสิมันต์ ถามย้ำอีกครั้งว่าใครพา ดร.สายประสิทธิ์ เข้ามา
พล.ต.ท.มนู ตอบว่า เรื่องนี้ประเด็นคือการสับสนเรื่องการตรวจความเร็ว ของนักวิทยาศาสตร์ พอดี อจ.สายประสิทธิ์นำเสนอ เราจึงสนใจและเอาเข้ามา ถ้าพ.ต.อ.ธนสิทธิ ไม่สับสน ก็ไม่มีปัญหา ทั้งนี้ตนได้ชี้แจงแล้วก็สบายใจ ยืนยัน ตำรวจพิสูจน์หลักฐานเป็นตำรวจพันธุ์พิเศษ ต้องมีใบอนุญาต มีความเชี่ยวชาญ ทำคดีมากกว่า 200 คดี จึงจะออกรายงานรับรองได้ ถ้าสำนักงานพิสูจน์หลักฐานเชื่อถือไม่ได้ กระบวนการยุติธรรมก็ไปไม่ได้
“พ.ต.อ.ธนสิทธิ” ถูกคุกคาม หลังแฉเบื้องหลังคดี “บอส อยู่วิทยา”
ทั้งนี้ตำแหน่งในการนั่งชี้แจงกมธ.ฯ นั้น พล.ต.อ.มนู กับ พ.ต.อ.ธนสิทธิ โดยมี พ.ต.อ.วิรดล คั่นกลาง
อัปเดตข่าวล่าสุดก่อนใคร Add friend ได้ที่ @PPTVOnline
ติดตามข่าววันนี้ได้ที่นี่ >> www.pptvhd36.com/tags/ข่าววันนี้