เมื่อวันที่ 6 ก.ย. 2563 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศการจับจ่ายใช้สอยในย่านตลาดบางลำพู วันนี้ค่อนข้างบางตา โดยแม่ค้าย่านนี้ ระบุตรงกันว่า ลูกค้าหายไป เพราะเศรษฐกิจที่ไม่ดี ประกอบกับไม่มีนักท่องเที่ยวต่างชาติ ทำให้ภาพรวมร้านค้ายอดขายตกลง 50-80% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงต้นปี 2563 ที่ยังไม่มีโควิด-19 ระบาดในไทย
สธ. ยังไม่พบผู้ใกล้ชิดดีเจ ติดโควิด-19
ส่วนการให้บริการ สแกนคิวอาร์โค้ด เพื่อเช็กอินผ่านแอปพลิเคชั่น “ไทยชนะ” จากการที่ทีมข่าวสำรวจ ร้านเครื่องดื่ม หรือ อาหารของคนในพื้นที่ส่วนใหญ่จะไม่มีคิวอาร์โค้ดให้สแกน แต่ถ้าเป็น ร้านอาหารหรือ ร้านอื่น ๆ ที่เป็นแฟรนไชส์ จะมีให้คิวอาร์โค้ดบริเวณหน้าร้าน แต่ลูกค้าก็ไม่ได้หยุดเพื่อสแกนทุกคน ส่วนที่ยังเข้มงวดเกือบ 100 % คือ การสวมใส่หน้ากากอนามัยที่ลูกค้ายังคงสวมใส่ทุกคน
นอกจากนี้ บางร้านก็ไม่ได้บังคับให้ลูกค้าลงทะเบียนก่อนเข้ารับบริการแล้ว เช่น “อริยา เสริมสวย” ลูกค้าไม่ได้ลงทะเบียนตั้งแต่เดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา เพราะเจ้าของร้านบอกว่ามีแต่ลูกค้าประจำ ไม่มีลูกค้ารายใหม่ไม่มีนักท่องเที่ยวนักท่องเที่ยว แต่ก็ยังวัดอุณหภูมิลูกค้าทุกคน ซึ่งเจ้าของร้าน ยังรู้สึกว่าการระบาดของไวรัสโควิด-19รอบนี้ ไม่ได้น่ากังวลเหมือนกับช่วงแรกของการระบาด ทั้งนี้แม้รัฐบาลผ่อนปรนให้เปิดร้านมาได้ถึง 5 เดือนแล้ว แต่ยอดขายก็ยังไม่กลับมาจากเดิมเฉลี่ย 15-20 คนต่อวัน เหลือเพียง 3 คนต่อวัน เนื่องจากร้านในย่านนี้ ต้องพึ่งพาลูกค้าต่างชาติ และหากสถานการณ์ยังคงทรงตัวแบบนี้ ไม่เกิน 3 เดือน คงต้องปิดกิจการ
6 ราย ผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ กลับจากต่างประเทศ
สำหรับการรายงานสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ที่ ศบค. แถลงวันนี้ พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 6 ราย เป็นผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศและเข้าพักสถานที่กักกันที่รัฐจัดให้ หรือ State Quarantine แบ่งเป็นจากสหรัฐอเมริกา 2 ราย , สหราชอาณาจักร 1 ราย และสิงคโปร์ 3 ราย ทำให้มีผู้ป่วยยืนยันสะสม 3,444 ราย หายป่วยแล้วสะสม 3,281 ราย ไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตเพิ่มเติม ทำให้ยอดสะสมคงที่ 58 ราย