“อุ๊ หฤทัย” บุก สภ.ปากเกร็ด บี้คดีแจ้งจับ “ปิยบุตร” ยุยงทหาร-ตร.
“หมอวรงค์”ชี้ต่างชาติแทรกแซงไทยผ่านการแก้ไขรัฐธรรมนูญ
จากกรณีรายการถามตรงๆกับจอมขวัญ ที่มีการดีเบตในหัวข้อ "ไขทางออก...วิกฤตการเมือง" ระหว่าง ไผ่ ดาวดิน และ อุ๊ หฤทัย โดยช่วงหนึ่ง อุ๊ หฤทัย ได้ตั้งคำถามว่า ไอลอว์ เป็นใคร? ทำไมถึงรับเงินจากอเมริกัน-ยิว? เป็นคนไทยหรือเปล่า? แล้วจะให้มาช่วยแก้ปัญหาในไทยได้ยังไง?
ล่าสุดทางโครงการอินเทอร์เน็ตเพื่อกฎหมายประชาชน หรือ ไอลอว์ (iLaw) ได้ชี้แจงผ่านทางเฟซบุ๊กว่า ไอลอว์ก่อตั้งเมื่อปี 2552 เป็นองค์กรพัฒนาเอกชนด้านสิทธิมนุษยชน ซึ่งทำงานกับภาคประชาสังคม มีเป้าหมายเพื่อไปให้ถึงหลักการประชาธิปไตย เสรีภาพในการแสดงออก สิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง ระหว่างปี 2552 ถึง 2557 ไอลอว์ได้รับการสนับสนุนทุนจากมูลนิธิ Open Society (Open Society Foundation) และมูลนิธิ Heinrich Böll และได้รับเงินสนับสนุนหนึ่งครั้งจากบริษัท Google และตั้งแต่ปี 2557 จนถึงปัจจุบันไอลอว์ได้รับการสนับสนุนจากองค์กรต่างๆ ดังต่อไปนี้
1. Open Society Foundation (OSF)
2. Heinrich Böll Stiftung (HBF)
3. National Endowment for Democracy (NED)
4. Fund for Global Human Rights (FGHR)
5. American Jewish World Servic (AJWS)
(เป็นองค์กรการพัฒนาระหว่างประเทศและสิทธิมนุษยชนที่ไม่แสวงหาผลกำไร และทำงานเพื่อให้ความรู้แก่ชุมชนชาวยิวอเมริกัน เกี่ยวกับความยุติธรรมระดับโลก เพื่อตระหนักถึงสิทธิมนุษยชนและยุติความยากจนในประเทศกำลังพัฒนา)
6. ได้รับเงินสนับสนุนเป็นรายครั้งจากบริษัท Google และผู้สนับสนุนอิสระ
ไอลอว์ชี้แจงว่า หลักการทำงานกับแหล่งทุน คือ เราจะพิจารณาแหล่งทุนที่มีวัตถุประสงค์สอดคล้องกับเป้าหมายขององค์กร ไม่ได้จำกัดว่าต้องมาจากประเทศใดและแหล่งทุนไม่มีส่วนในการกำหนดรูปแบบและวัตถุประสงค์ของกิจกรรม ข้อมูลทั้งหมดนี้อยู่บนเว็บไซต์มาตั้งแต่ก่อตั้ง โดยมีหลักการเปิดเผย โปร่งใส ตรวจสอบได้ ไม่ใช่เรื่องที่ต้องทำโดยปิดลับ และไม่ใช่เรื่องแปลกประหลาด เช่นเดียวกับการทำงานขององค์กรพัฒนาเอกชนอื่นๆในประเทศไทยและทั่วโลก
ด้านนายยิ่งชีพ อัชฌานนท์ ผู้จัดการโครงการอินเทอร์เน็ตเพื่อกฎหมายประชาชน (iLaw) ได้โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กระบุว่า ในประเทศไทยมีกองทุนจากเงินภาษีจำนวนมาก ที่มีวัตถุประสงค์เฉพาะและเปิดให้คนทั่วไปยื่นโครงการมาขอไปใช้ได้ เช่น กองทุน สสส. Thai Media Fund (สื่อสร้างสรรค์ปลอดภัย) กองทุนวิจัยของ กสทช. ซึ่งในหลายประเทศก็มีกองทุนจากเงินภาษีของประชาชนด้วยเช่นกัน และคนต่างชาติก็มาขอไปใช้ได้ถ้าวัตถุประสงค์ตรงกัน
ไอลอว์ยังชี้แจงอีกว่าตลอดระยะเวลา 12ปี อยู่ได้ด้วยเงินทุนจากต่างประเทศมาตลอด และถ้าหากว่าเมื่อไรมีแหล่งทุนสัญชาติไทย เปิดและแจกเงินทุนให้ทำงาน “ตรวจสอบรัฐ” ก็จะไปขอ
แต่ปัจจุบันไม่มีกองทุนนี้ มีแต่แหล่งทุนเปิดให้ทำงานอวยรัฐ ปัจจุบันเราใช้แหล่งทุน 5 แหล่ง คือ OSF , NED , AJWS , FGHR และ HBS หลักการพื้นฐานคือเราเป็นคนเขียน Proposal และเป็นคนคิดว่าปีนี้เราจะทำอะไรบ้างแล้วยื่นขอไป ไม่ใช่ให้แหล่งทุนมากำหนดว่าต้องทำอะไร ถ้าใครแทรกแซงจะไม่ทำงานด้วย แล้วเงินทั้งหมดที่ใช้มีใบเสร็จ มีรายงาน ตรวจสอบได้ มีเจ้าหน้าที่ประจำ 12 คน และมีอาสาสมัครอีกนับไม่ถ้วน ปีหนึ่งใช้เงินประมาณ 3 ล้านกว่าๆ คิดดูว่าเป็นการใช้ฟุ่มเฟือยไหม เงินจะตกถึงท้องแต่ละวันเท่าไร
จากประสบการณ์ 11 ปีในวงการ เมื่อเอ็นจีโอไหนประสบความสำเร็จในการทำงาน สั่นสะเทือนการรวบอำนาจเบ็ดเสร็จของรัฐบาลได้ รัฐบาลของประเทศนั้นๆไม่มี “เหตุผล” อะไรจะมาสู้ ก็จะเอาข้อหา “รับเงินต่างชาติ” มาใช้ตลอด เพื่อหลีกเลี่ยงการต่อสู้ในสนามเหตุผล ก็เป็นเช่นนี้เอง
ด้าน นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม แกนนำกลุ่มไทยภักดี ได้โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่า ต้องช่วยกันเอาความจริงออกมา รัฐธรรมนูญให้โอกาสประชาชนเสนอร่างกฎหมายได้ แต่องค์กรที่เป็นหัวเรี่ยวหัวแรงเสนอร่างแก้รัฐธรรมนูญ ซึ่งเป็นกฏหมายสูงสุดของประเทศ กลับกลายเป็น NGO ที่รับเงินจากต่างชาติ การที่เรายอมให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ เพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับในอนาคต ต่างชาติก็สามารถแทรกแซงประเทศไทย ผ่านการแก้ไขรัฐธรรมนูญหรือแก้ไขกฎหมายต่างได้ง่ายๆ เราคนไทยจะปล่อยเรื่องแบบนี้หรือ
ขณะที่ อุ๊ หฤทัย ม่วงบุญศรี ได้โพสต์เฟซบุ๊กชี้แจงถึงกรณีการดีเบตทางการเมืองว่า... “อุ๊ ต่างหากที่รักษากติกา คือไม่พูดเรื่องสถาบันพระมหากษัตริย์ ตามที่รายการกำหนดไว้ การส่งสารในวิธีนี้ถือว่าไปถึงแล้วคะ แม้ว่าเค้าไม่ชอบแต่เค้าจะได้ยิน”