วันนี้(30 มิ.ย. 58) พล.ต.อ.เรืองศักดิ์ จริตเอก รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า ขณะนี้ตำรวจยังไม่ตัดประเด็นใดทิ้ง และยังหาข้อมูลประเด็นความขัดเเย้งในครอบครัว รวมทั้งประเด็นเงินประกันชีวิตที่ผู้ตายทำไว้ซึ่งหลังจากนี้จะตรวจสอบว่าใครจะเป็นผู้ได้รับผลประโยชน์
ส่วนการสอบปากคำพนักงานรักษาความปลอดภัยร้านอาหาร ซึ่งเป็นคนเห็นหน้าคนร้ายที่ก่อเหตุ ขณะนี้ทราบว่า คนร้าย เป็นชาย2คน อายุประมาณ 30ปี ผิวสีดำแดง สูงประมาณ160-170ซม. โดยคนร้ายที่เป็นมือปืนสวมหมวกแก๊บ ส่วนคนขับรถสวมหมวกกันน็อตเต็มใบ ขณะนี้ตำรวจกำลังอยู่ระหว่างการสเก็ตภาพเพื่อนออกหมายจับต่อไป
ขณะที่การไล่กล้องวงจรปิดตลอดเส้นทางรอบร้านอาหารเฮงหูฉลาม เบื้องต้น พบว่า คนร้ายขี่จักรยานยนต์ ผ่าน อาคารวิริยะประกันภัย และ ธนาคารออมสิน ซึ่งอยู่ในรัศมีจุดเกิดเหตุ 1 กิโลเมตร และขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการขยายผลเส้นทาง
สำหรับการสอบปากคำภรรยาของผู้ตาย พบว่า ก่อนเดินทางมาที่ร้านอาหาร ทั้ง2ได้เดินทางไปโรงพยาบาลหัวหมาก เวลาประมาณ15.00น. เนื่องจากผู้ตายมีนัดตรวจสุขภาพซึ่งเลื่อนนัดมาหลายครั้งแล้ว จากนั้นจึงเดินทางมารับประทานอาหารที่ร้านเฮงหูฉลาม ซึ่งตำรวจกำลังอยู่ระหว่างการขยายผลว่ามีใครทราบหรือไม่ว่า ทั้งคู่จะเดินทางมารับประทานอาหารในเวลาดังกล่าว
สำหรับมูลเหตุที่นำมาซึ่งการลอบสังหารเสี่ยสมยศ ซึ่งตำรวจสันนิษฐานไว้สามประเด็นและยังไม่ตัดประเด็นใดทิ้ง ได้แก่
ประเด็นเรื่องหนี้สินการพนันเป็นอีกประเด็นหนึ่งในการสังหาร นายสมยศ สุธางค์กูร ที่ ตำรวจตั้งข้อสันนิษฐานไว้ โดยจากการสอบสวนของตำรวจเบื้องต้น บุคคลใกล้ชิด นายสมยศ ให้การว่า ก่อนตายนายสมยศ เคยเล่าให้ฟังถึงปัญหาหลายเรื่องหนึ่งในนั้นคือเรื่องหนี้สิน มีความขัดแย้งกับศัตรู รวมถึงเรื่องธุรกิจที่นายสมยศบอกว่าถูกโกง
ประเด็นที่สองที่ตำรวจมุ่งเป้าไป คือเรื่องการจ้างวิ่งเต้นคดี ด้วยเงิน 25 ล้านบาท โด ประเด็นนี้ตำรวจยังไม่เปิดเผยรายละเอียดมากนัก ซึ่งพลตำรวจเอก เรืองศักดิ์ จริตเอก รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ บอกเพียงว่า เป็นการจ้างวิ่งเต้นคดีส่วนใหญ่เป็นคดีเกี่ยวกับยาเสพติด ในท้องที่สถานีตำรวจนครบาลดินแดง
อีกหนึ่งในข้อสันนิษฐาน ที่ตำรวจระบุว่า ได้ข้อมูลมาจากภรรยานายสมยศ คือ ปัญหาเรื่องที่ดินย่านพระราม 9 ซึ่งทีมข่าว ไปสำรวจที่ตั้งเดิมของพระราม 9 พลาซ่า โดยที่ไม่สามารถระบุได้ว่า เป็นพื้นที่เดียวกันกับข้อสันนิษฐานนี้หรือไม่ แต่ที่ดินแปลงนี้ ก็น่าสนใจไม่น้อย เพราะมีทั้งสัญลักษณ์ต่างๆและคำบอกเล่าที่บ่งบอกว่า นายสมยศ อาจยังเป็นผู้ครอบครองที่ดินแปลงนี้
จากการสอบถามคนที่อยู่ในร้าน "เมืองอีสาน" ได้ข้อมูลว่า สถานที่แห่งนี้ นายสมยศ ปล่อยให้เช่าที่ดินมาประมาณ 3 ปีแล้ว โดยแรกเริ่ม ผู้เช่าที่มีป้ายติดไว้ด้านหน้าว่า บริษัท กานต์มณี เน็ตเวอร์ค จำกัด เช่าที่ตั้งเดิมของพระราม 9 พลาซ่า ทำเป็นสถานีโทรทัศน์ดาวเทียม 5 ช่อง ที่นำเสนอเนื้อหาเป็นรายการภาพยนตร์ และรายการเพลง จนกระทั่งธุรกิจทีวีดาวเทียมต้องปิดตัวลงหลังการรัฐประหารเมื่อกลางปีที่แล้ว เพราะไม่สามารถออกอากาศได้ จึงหันมาเปิดร้านอาหารที่มีการแสดงดนตรี ตั้งแต่ช่วงต้นปี 2558 และเพิ่งมาปิดปรับปรุงในเดือนมิถุนายนนี้
แต่ถ้าย้อนกลับไปในเดือนเดียวกัน เมื่อ 17 ปีที่แล้ว หรือ ในปี 2541 "บุญเลี้ยง อดุลยฤทธิ์กุล" หรือเฮียเลี้ยง ผู้ที่เคยที่เป็นทั้งหุ้นส่วนและกลายมาเป็นคู่แข่งในธุรกิจคาเฟ่ของ เสี่ยยศ ก็เสียชีวิตจากจากถูกยิงเช่นเดียวกัน
การตายของเฮียเลี้ยงครั้งนั้น ทำให้ตำรวจเคยตั้งปมและพุ่งเป้ามาที่ เสี่ยยศว่าอาจเป็นผู้อยู่เบื้องหลัง เพราะถือว่าเป็นทั้งบุคคลที่มีความขัดแย้งกันส่วนตัวทางธุรกิจและเป็นบุคคลที่ได้ประโยชน์จากการตาย เพราะหลังการเสียชีวิตของ เฮียเลี้ยง ทำให้ "วิลล่า คาเฟ่" ต้องปิดตัวลง เหลือเพียงค่าเฟ่รายใหญ่รายเดียวในกรุงเทพฯ คือ พระราม 9 คาเฟ่ของ "เสี่ยยศ"
นายสมยศ สุธางค์กูร เคยให้สัมภาษณ์หลังตัวเองตกเป็นผู้ต้องสงสัยสังหาร "เฮียเลี้ยง" ไว้กับหนังสือพิมพ์ข่าวสดใจความโดยสรุป คือ ไม่แปลกใจที่ตัวเองตกอยู่ในสถานะผู้ต้องสงสัย เพราะมีปัญหาขัดแย้งกันอย่างรุนแรงจริง โดยเฉพาะในแง่ของการแข่งขันกันทางธุรกิจ
ในยุคที่ธุรกิจคาเฟ่รุ่งเรือง พระราม 9 คาเฟ่ของ เสี่ยยศ กับ วิลล่าคาเฟ่ของ เฮียเลี้ยง แข่งขันกันอย่างรุนแรง ถึงขั้นเคยส่งคนไปอุ้มตัว ดาราศิลปินที่มีชื่อเสียงในเวลานั้นมาแสดงในคาเฟ่ของตนเอง เพราะเกรงว่า ฝ่ายตรงข้ามจะตัดหน้า
แต่บทสรุปของคดีสังหาร เฮียเลี้ยง ไม่มีหลักฐานเชื่อมโยงที่ระบุได้ว่า เสี่ยยศมีความเกี่ยวข้อง เนื่องจากมือปืนผู้เหนี่ยวไกสังหารรับสารภาพว่าการฆ่า "เฮียเลี้ยง" มีเป้าหมายชิงทรัพย์
หลังชีวิตของเฮียเลี้ยงและวิลล่า คาเฟ่ ปิดฉากลง นับเป็นยุคเฟื่องฟูของพระราม 9 คาเฟ่ และสมยศ สุธางค์กูร เพราะถือเป็นแหล่งรวม ดารา ศิลปิน ตลก แหล่งใหญ่แห่งเดียว ในกรุงเทพฯ กระทั่งมีปัญหาอีกครั้ง เมื่อมีการประกาศไม่ให้ตลกคณะที่มีนามสกุล "เชิญยิ้ม" ขึ้นแสดงที่พระราม 9 คาเฟ่ ก่อนที่กิจการคาเฟ่จะถึงขาลง และค่อยๆหายไปจากการพูดถึงของสาธารณะพร้อมๆกับชื่อของ "สมยศ สุธางค์กูร" ก่อนจะมาปรากฎเป็นข่าวถูกลอบสังหารเมื่อคืนที่ผ่านมา
