​ทัวร์ปรองดอง 4ส.6 เส้นทางสร้างสันติสุข


โดย PPTV Online

เผยแพร่




ถ้าย้อนกลับไปเมื่อ 5-6 ปีก่อน ในช่วงที่บ้านเมืองเต็มไปด้วยความขัดแย้งทางการเมือง แต่ละสี แต่ละขั้วซัดกันนัวเนีย เสียงปืน ระเบิดดังสนั่นหวั่นไหว ทั้งตายทั้งเจ็บจนนับกันไม่ถ้วน ใครเผลอไปบอกว่าบรรดาแกนนำมวลชนขั้วต่างๆจะกอดคอกันร่วมเดินทางไปที่ต่างๆด้วยกัน อาจจะถูกหาว่าบ้าได้





แต่มาวันนี้ภาพที่ไม่น่าเชื่อว่าจะเกิดขึ้น มันก็ปรากฎด้วยฝีมือของสถาบันพระปกเกล้า นำโดยพล.อ.เอกชัย ศรีวิลาศ ผ.อ.สำนักสันติวิธี และธรรมาภิบาล สถาบันพระปกเกล้า ได้ระดมเอาผู้ที่มีความเห็นต่างทางการเมืองมาร่วมอยู่ในคอกเดียวกันได้สำเร็จ ภายใต้ห้องเรียนที่ชื่อว่า "หลักสูตรการเสริมสร้างสังคมสันติสุข" รุ่นที่ 6 หรือเรียกสั้นๆว่า 4ส.6


หลักสูตร 4ส.6 ได้รวบรวมเอาผู้นำทุกภาคส่วนในสังคมเข้ามาเรียนอยู่ด้วยกันเป็นเวลา 10 เดือนมีทั้งผู้นำมวลาชนสีต่างๆ นักเคลื่อนไหวทางการเมือง อาทิ สมบัติ บุญงามอนงค์ วิภูแถลง พัฒนภูมิไทย พะเยาว์ อัคฮาค องอาจ ตันธนสิน วีระ สมความคิด ศิริชัย ไม้งาม บุญส่ง ชเลธร แทนคุณ จิตต์อิสระ รัชดา ธนาดิเรก



นอกจากนี้ ยังมีผู้นำจากภาคธุรกิจเอกชน การเมืองท้องถิ่น ผู้พิพากษา อัยการ ทนายความ ทหาร ตำรวจ ข้าราชการ นักวิชาการ สื่อมวลชน ร่วมอยู่ในห้องเรียนนี้รวมแล้ว 90 ชีวิต


เป้าหมายคือ ให้คนที่มีความคิด ความเชื่อที่แตกต่างกัน ได้มีพื้นที่ในการสื่อสารกัน ได้รับฟังจุดยืนของฝั่งตรงข้าม แทนที่จะฟังแต่พวกตัวเอง ซึ่งจะทำให้แต่ละฝ่ายเข้าใจกันมากขึ้น




เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาน.ศ.คณะนี้ ที่ผมอยากจะเรียกว่า "ทัวร์ปรองดอง" ได้เดินทางไปภาคอีสาน จ.นครพนม จ.สกลนคร และจ.อุดรธานี เพื่อเรียนรู้การใช้ชีวิตของผู้คนในแบบพหุวัฒนธรรม หรือการผสมผสานของคนที่มีความต่างทางวัฒนธรรมแต่อยู่ร่วมกันได้อย่างสงบสุข ซึ่งอาจจะตัวแบบให้สังคมการเมืองที่ผู้คนมีความคิด ความเชื่อ อุดมการณ์ทางการเมืองแตกต่างกัน แต่สามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างสันติ ไม่เข่นฆ่าทำลายล้างกัน เหมือนที่เคยเป็น


จุดหมายที่ชาวคณะได้เดินทางไปซึมซับความรู้ก็มีหลายแห่ง เช่น หมู่บ้านมิตรภาพไทย-เวียดนาม บ้านนาจอก อ.เมือง จ.นครพนม จุดนี้เป็นชุมชนเก่าแก่ที่ชาวเวียดนามจำนวนมาก หนีสงครามเข้ามาตั้งรกรากในดินแดนไทย และเป็นจุดที่ "ลุงโฮ" หรือโฮจิมินท์ ผู้นำการปฎิวัติเวียดนาม เคยมาใช้ชีวิตเพื่อวางแผนกู้เอกราชเวียดนามจากฝรั่งเศส



เมื่อผ่านพ้นช่วงสงคราม และโฮจิมินท์ ก้าวขึ้นเป็นประธานาธิบดีเวียดนาม บ้านนาจอก จึงกลายเป็นพิกัดทางประวัติศาสตร์ รัฐบาลเวียดนามมอบเงินหลายสิบล้านบาทเพื่อพัฒนาพื้นที่นี้ให้เป็นแหล่งเรียนรู้ประวัติศาสตร์กู้ชาติเวียดนาม


ทุกวันนี้รุ่นลูกรุ่นหลานก็ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกัน โดยมีประวัติศาสตร์ "ลุงโฮ" เป็นเหมือนแกนกลางหรือร่มเงาที่ผูกให้คนสองแผ่นดินอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุข ในหมู่บ้านมิตรภาพไทย-เวียดนาม แห่งนี้


ในจ.นครพนม น.ศ.กลุ่มนี้ยังได้เดินทางไปที่เมืองเก่าไชยบุรี เพื่อเรียนรู้วิถีชีวิตเผ่าไทญ้อ ที่มีถิ่นฐานเดิมอยู่ที่เมืองหงสา แขวงไชยบุรี ประเทศลาว และย้อนรอยประวัติศาสตร์เมืองเก่าไชยบุรี ซึ่งในอดีตคืออาณาจักรศรีโคตรบูร ต.ไชยบุรี อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม


วีระ สมความคิด สมบัติ บุญงามอนงค์ ศิริชัย ไม้งาม กำลังเล่าประสบการณ์ที่ได้จากการดูงานครั้งนี้



"ทัวร์ปรองดอง" คณะนี้ได้เดินทางไปเรียนรู้วิถีชีวิต ความแตกต่างหลากหลายของผู้คนในพื้นที่ภาคอีสาน ผ่านกิจกรรมทางศาสนา ที่หลากหลายทั้งศาสนาพุทธ และคริสต์ ที่ต่างดำรงวิถีอันแตกต่างได้อย่างลงตัว โดยได้เดินทางไปวัดพระธาตุพนม จ.นครพนม วัดภูริทัตตถิราวาส บ้านหนองผือ ต.นาใน อ.พรรณานิคม วัดที่หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต เคยจำพรรษา วัดพระธาตุเชิงชุมวรมหาวิหาร จ.สกลนคร


ขณะเดียวกันก็ได้เรียนรู้วิถีแห่งคริสศาสนา ผ่านการสนทนาธรรมกับบาทหลวง แห่งวัดนักบุญอันนา ต.หนองแสง เทศบาลเมืองนครพนม เป็นชุมชนชาวคริสต์ที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศไทย น่าสนใจว่าศาสนาคริสต์ ดำรงตนอย่างแข็งแรง กระทั่งเผยแผ่ศาสนาได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งๆที่ในแถบพื้นที่ภาคอีสานริมแม่น้ำโขง เป็นดินแดนที่เหนียวแน่นไปด้วยความเชื่อโบราณ ทั้งเรื่องผีสาง เทวดา หรือพญานาค นับเป็นการปรับตัวให้เข้ากับวิถีท้องถิ่นอย่างน่าทึ่ง




อีกหนึ่งไฮไลท์ ของ "ทัวร์ปรองดอง" ครั้งนี้คือการเดินทางไปสวนสาธารณะหนองประจักษ์ศิลปาคม จ.อุดรธานี ซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นสมรภูมิรบของ"เหลือง-แดง"


และจังหวัดมีกลิ่นไอการเมืองเข้มข้น "ขวัญชัย สาราคำ" เคยประกาศว่าเป็น "เมืองหลวงของคนเสื้อแดง" นำไปสู่ความไม่พอใจของสีอื่นๆที่อยู่ในจังหวัดเดียวกัน ทำให้อุดรธานี มีอุณหภูมิการเมืองที่ร้อนแรงกว่าพื้นที่อื่นๆ


ในงานนี้การจัดเวทีเสวนาหัวข้อ "การเมืองท้องถิ่นสมานฉันท์เพื่อการเสริมสร้างสังคมสันติสุข"


ขวัญชัย สาราคำ แกนนำนปช. รังษี ศุภชัยสาคร แกนนำกปปส. อุดรธานี ชูมือส่งสัญญาณความปรองดอง



"สถาบันพระปกเกล้า" ได้สร้างเซอร์ไพรส์ ให้กับจ.อุดรธานี ด้วยการเชิญแกนนำทั้งฝ่ายเหลือง ฝ่ายแดง ขึ้นเวทีเดียวกัน และต่างให้คำมั่นสัญญาว่าจะร่วมมือกันสร้างบรรยากาศแห่งความปรองดองให้เกิดขึ้นในจ.อุดรธานี เป็นแบบอย่างให้พื้นที่อื่นๆให้ได้


"คณะทัวร์ปรองดอง" ได้ตระเวนไปศึกษาสภาพชีวิตของผู้คนในภาคอีสาน ทำให้เห็นว่าแท้ที่จริงแล้วผู้คนในสังคมไทยต่างปรับตัว เรียนรู้ ที่จะอยู่ร่วมกันบนความแตกต่าง หลากหลาย ทั้งทางศาสนา วัฒนธรรม และชาติพันธุ์ มายาวนาน จนในที่สุดก็หาวิธีผสมผสานกันได้อย่างลงตัว


วิภูแถลง พัฒนภูมิไท แทนคุณ จิตต์อิสระ กับบรรยากาศผ่อนคลายระหว่างดูงาน



เป็นบทเรียนล้ำค่าที่จะนำมาเป็นแบบอย่าง ในการคลี่คลายความขัดแย้งและสร้างสังคมแห่งสันติสุขให้เกิดขึ้นในสังคมไทย


เสถียร วิริยะพรรณพงศา

PR - ตารางคะแนน-2_B PR - ตารางคะแนน-2_B
TOP ประเด็นร้อน
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ