แจงปมพิรุธอุทยานราชภักดิ์ เดิมพันฟื้นศรัทธา “กองทัพ” (คลิป)


โดย PPTV Online

เผยแพร่




Big story หากจับสัญญาณจากเนื้อหาที่โฆษกกระทรวงกลาโหมพยายามเน้นย้ำในการชี้แจงรายละเอียดปมพิรุธที่ยังไม่คลี่คลายในการก่อสร้างอุทยานราชภักดิ์ โดยเฉพาะกรณีการจ่ายเงินส่วนต่าง หรือ “ค่าหัวคิว” จะเห็นได้อย่างชัดเจนว่า มีความพยายามจำกัดวงไม่ให้ขยายจากความผิดระหว่างเอกชน

ในส่วนนี้ถือว่ามีนัยสำคัญอย่างมากต่อกระบวนการตรวจสอบที่จะนำไปสู่การเอาผิดทางกฎหมายหรือเป็นตัวชี้ความโปร่งใสของโครงการตามความหมายของกองทัพ และยิ่งชัดเจนขึ้นอีก เมื่อนำมาเปรียบเทียบกับยุทธศาสตร์ของพรรคเพื่อไทยที่พยายามขยายวงผู้เกี่ยวข้องเรื่องนี้ให้มากที่สุด

ท่าทีเช่นนี้เห็นได้อย่างชัดเจนจากแถลงการณ์ของพรรคเพื่อไทยที่เผยแพร่ทางเวปไซด์อย่างต่อเนื่องตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมาและล่าสุดคือวันนี้ มีสาระสำคัญหลัก 4 ข้อ

- เรียกร้องให้กลไกตรวจสอบให้ความกระจ่างตามข้อมูลที่ปรากฎว่ามีนายทหารสังกัดกองทัพบกถูกพาดพิงว่ามีผลประโยชน์ร่วมจากค่าหัวหรือส่วนต่างกับเซียนพระที่ได้จากโรงหล่อ

- เรียกร้องให้บุคคลในระดับนโยบาย มีส่วนรับผิดชอบ

- เรียกร้องให้ หน่วยงานภายนอก อย่าง ป.ป.ช. สตง. สตช. ดีเอสไอ และ ป.ป.ง.เข้ามามีบทบาทในการตรวจสอบตามหน้าที่

- และเรียกร้องให้หาตัวผู้มีส่วนร่วมในการทำผิดมารับผิดชอบ

โดยทั้งหมดก็มีข้อน่าสังเกตุว่า เป็นข้อเรียกร้องอย่างกว้างๆไม่ได้ลงรายละเอียดในเชิงประเด็นหรือฐานความผิดในข้อกฎหมาย ตามความถนัดของพรรคการเมืองที่มีนักกฎหมายร่วมทำงานอยู่เป็นจำนวนมาก นั่นอาจมองได้ว่าเกิดจากข้อมูลที่จำกัดหรือในเชิงข้อกฎหมายอาจจะไม่สามารถเอาผิดในลักษณะขยายตามความต้องการในแถลงการณ์ได้ โดยเฉพาะปมพิรุธที่ยังมีข้อกังขาที่สุด คือ ค่าหัวคิว

หากย้อนกลับมาทำความเข้าใจตามข้อมูลที่ปรากฎออกมา สร้างพระบรมรูปพระราชนุสาวรีย์บูรพกษัติริย์ 7 พระองค์ มีโรงหล่อ 7 แห่งเข้ามาร่วมดำเนินการ โดยมีเซียนพระเป็นผู้ประสานงาน และปรากฎข้อมูลที่พลเอกอุดมเดช ยอมรับด้วยตัวเอง ว่ามีการจ่ายเงินส่วนต่างหรือค่าหัวคิว 10 เปอร์เซนต์กันจริง และภายหลังได้จัดการนำเงินส่วนนี้บริจาคเข้ามูลนิธิ ข้อสังเกตุจากข้อมูลที่จำกัดเพียงเท่านี้จะเห็นว่า การจ่ายเงินส่วนต่างก้อนนี้เกิดขึ้นระหว่างเอกชนตามที่โฆษกกระทรวงกลาโหมพยายามสื่อสารประเด็นนี้ในวันนี้ หากเป็นไปตามนี้อาจไม่ได้หมายถึงการการันตีว่าไม่เกี่ยวข้องกับบุคคลในกองทัพฯเท่านั้น แต่อาจรวมถึง การล้างมลทินให้กับโครงการนี้ได้เลยหากดูจากข้อกฎหมาย

ทีมข่าว PPTV ตรวจสอบข้อกฎหมายกับทีมกฎหมายของฝ่ายที่ออกมาแสดงจุดยืนตรวจสอบโครงการนี้ ก็ยังยอมรับกลายๆ เป็นเรื่องยากที่จะเอาผิดตามข้อกฎหมาย หากจะดำเนินคดีกัน ความผิดสูงสุดในกรณีคือ ความผิดอาญาฐานฉ้อโกงประชาชน เพราะงบประมาณที่ใช้ในโครงการมาจากเงินบริจาค แต่ข้อเท็จจริงที่ปรากฏยังไม่เพียงพอที่จะเอาผิด เพราะเงินส่วนต่างที่เป็นค่าหัวคิว ถือเป็นเงินที่อาจพูดได้ว่า โรงหล่อเต็มใจที่จะแบ่งค่าจ้างให้กับเซียนพระเป็นค่าจัดหางาน ซึ่งจะเอาผิดกรณีนี้ต้องพิสูจน์ให้ได้ว่า การกระทำนี้สร้างความเสียหายให้กับชิ้นงาน เช่นไม่เป็นไปตามสเปคที่กำหนด ซึ่งถือว่าพิสูจน์ได้ยาก และทั้งหมดอาจจะแสดงให้เห็นถึงความหมายที่โฆษกกระทรวงกลาโหมพยายามเน้นย้ำในวันนี้

อย่างไรก็ตาม ทั้งหมดเป็นเงื่อนไขของข้อกฎหมาย แต่ดูเหมือนโจทย์ใหญ่ของกองทัพในเวลานี้อาจจะไม่เพียงแค่ การพิสูจน์ความบริสุทธิ์ตามข้อกฎหมายเท่านั้น เมื่อทิศทางของสังคมดูเหมือนจะเคลือบแคลงกับกระบวนการตรวจสอบที่แสดงถึงความโปร่งใสในภาพรวมมากกว่า

นายกฯยอมรับมีแอบอ้างเบื้องสูงรับผลประโยชน์สร้างอุทยานราชภักดิ์

และยิ่งเป็นโจทย์ใหญ่ที่ซับซ้อน เมื่อปัญหาไม่ได้จำกัดวงอยู่เพียงเท่านี้ หลังนายกรัฐมนตรีออกมายอมรับด้วยตัวเองว่า พบการแอบอ้างเบื้องสูงเพื่อแสวงหาผลประโยชน์จากกรณีนี้ด้วย

พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา กล่าวหลังประชุมคณะรัฐมนตรีในวันนี้ว่า หากพบบุคคลใดทำผิดขอให้เป็นเรื่องส่วนบุคคล ไม่เกี่ยวข้องกับกองทัพ พร้อมขออย่านำเรื่องนี้ไปขยายผลจนกลายเป็นเครื่องมือทางการเมือง

ส่วนความคืบหน้าการตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงการก่อสร้างอุทยานราชภักดิ์ พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เปิดเผยว่าอยู่ระหว่างคัดเลือกบุคคลมาทำหน้าที่ โดยเฉพาะบุคคลภาย เพื่อให้การตรวจสอบมีความโปร่งใส

TOP ประเด็นร้อน
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ