วันนี้ (2 ก.พ. 59) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ข้อกังวลเกี่ยวกับผลกระทบที่จะเกิดกับสิ่งแวดล้อมและชุมชนเป็นประเด็นสำคัญที่กลุ่มเครือข่ายวาระเปลี่ยนตะวันออก และนักวิชาการอิสระด้านสิ่งแวดล้อม หยิบยกมาแลกเปลี่ยนกัน หากรัฐบาลเดินหน้าตามประกาศฉบับที่ 3 และ 4 ให้ยกเว้นบังคับใช้ผังเมืองรวม ทั้งในและนอกเขตเศรษฐกิจพิเศษ เพื่อเอื้อประโยชน์กับการลงทุนโครงการขนาดใหญ่ โดยเฉพาะโรงไฟฟ้าขยะ ที่อยู่ระหว่างกำหนดพื้นที่เตรียมก่อสร้างกว่า 51 แห่งทั่วประเทศ
นางจรูญ สวยดี ผู้ประสานงานเครือข่ายวาระเปลี่ยนตะวันออก กล่าวว่า เดิมจังหวัดระยองส่งเสริมภาคอุตสาหกรรมอยู่แล้ว ทำให้มีพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากอุตสาหกรรมจำนวนมาก หากยกเว้นบังคับใช้ผังเมืองรวม จะส่งผลให้มีโรงงานอุตสาหกรรมเกิดขึ้นทุกพื้นที่ โดยไม่มีการประเมินผลกระทบที่จะเกิดขึ้น
ทั้งนี้แม้ภาครัฐบาลจะมีนโยบายส่งเสริมการลงทุนให้เกิดขึ้นในประเทศจากต่างชาติมากยิ่งขึ้น ผู้ประสานงานเครือข่ายวาระเปลี่ยนตะวันออก กล่าวว่า รัฐบาลควรจะสื่อสารกับประชาชนให้มากขึ้นและให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วม ขณะที่เครือข่ายจาก 8 จังหวัดภาคตะวันออก เตรียมยื่นหนังสือถึงพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้ยกเลิกคำสั่งทั้ง 2 ฉบับ และทบทวนการออกคำสั่งใหม่ เชื่อจะสามารถทำได้แต่ต้องคุยด้วยหลักวิชาการ
ส่วนความคืบหน้ากรณีชาวบ้านในจังหวัดอ่างทองเคลื่อนไหวคัดค้านการก่อสร้างโรงงานไฟฟ้าถ่านหินของบริษัท ไทยเรยอน จำกัด (มหาชน) วานนี้ (1 ก.พ. 59) ในวันนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เรียกตัวแทนบริษัทเข้าพูดคุยเพื่อหาทางออก แต่ไม่มีตัวแทนชาวบ้าน และฝ่ายคัดค้านเข้าร่วมรับฟังด้วย
หลังการพูดคุยนานกว่า 4 ชั่วโมง ทางจังหวัดเสนอให้บริษัทจัดหาพลังงานชนิดอื่นแทนการใช้ถ่านหิน ซึ่งทางโรงงานได้รับไปหารือกับผู้บริหารว่าจะทำได้หรือไม่ และจะประชุมหาข้อสรุปกันอีกครั้งในวันพรุ่งนี้ (3 ก.พ. 59)
