ปรากฎการณ์ “สุริยุปราคา” คือการเคลื่อนที่ของดวงจันทร์ ค่อยๆ เข้าบดบังดวงอาทิตย์ จนเห็นรอยเว้าแหว่งอย่างชัดเจน ตลอดเวลาเกือบ 2 ชั่วโมงเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาของวันนี้ สร้างความตื่นเต้นให้กับผู้ที่รอชมเป็นอย่างมาก ซึ่งในแต่ละภูมิภาคมองเห็นการบดบังแตกต่างกันไป โดยเฉพาะภาคใต้ซึ่งเป็นพื้นที่สามารถมองเห็นการบดบังมากที่สุดถึง ร้อยละ 63 เพราะอยู่ใกล้กับประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งเกิดสุริยุปราคาเต็มดวง
อุเทน แสงวิทย์ นักวิจัยสถาบันดาราศาสตร์แห่งชาติ อธิบายว่า การเกิดสุริยุปราคา เป็นปรากฏการณ์ที่ดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ และโลก โคจรมาอยู่แนวเดียวกัน โดยดวงจันทร์อยู่ตรงกลาง เมื่อมองจากโลกจะเห็นดวงจันทร์เคลื่อนที่เข้ามาบดบังดวงอาทิตย์
ทั้งนี้ การเกิดสุริยุปราคา แบ่งได้เป็น 3 แบบ คือ แบบเต็มดวง จะมองเห็นดวงอาทิตย์มืดทั้งดวง ซึ่งในประเทศไทยเคยเกิดสุริยุปราคาเต็มดวง เมื่อปี 2538 แบบวงแหวน โดยเงาของดวงจันทร์บดบังดวงอาทิตย์จนกลายเป็นวงแหวน และแบบบางส่วน จะเห็นดวงอาทิตย์ปรากฎเป็นเสี้ยว อย่างเช่นที่เกิดขึ้นในครั้งนี้
สำหรับประเทศไทย โอกาสที่จะเห็นสุริยุปราคาบางส่วนอีกครั้ง ถัดไปใน 3 ปีข้างหน้า คือวันที่ 26 ธันวาคม ปี 2562 และมีโอกาสมองเห็นแบบเต็มดวง ในวันที่ 11 เมษายน ปี 2613 หรืออีก 54 ปี