การฝังระเบิดไว้ภายใน และคำนวณทิศทางการตกให้พังลงมาในแนวดิ่ง ภายใต้การควบคุมของผู้เชี่ยวชาญอย่างเข้มงวดในทุกขั้นตอน เป็นวิธีหนึ่งของรื้ออาการเก่าที่เวลานี้ วิศวกรหลายประเทศนิยมใช้
ส่วนอาคารสูง 4 ชั้น ในตัวเมืองพัทยา ที่ถล่มระหว่างการรื้อถอนเมื่อวานนี้ ใช้วิธีการนำรถแบคโฮขนาดใหญ่ไล่ทุบโครงสร้าง คณบดีคณะวิศวกรรมศาสตร์ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง ตรวจสอบภาพเหตุการณ์นี้ พบว่า ก่อนอาคารทรุดตัว มีโครงการเสาบางจุดถูกทุบทำลายไม่พร้อมกัน นี่อาจจะเป็นสาเหตุสำคัญของการพังถล่ม ซึ่งถือว่าเป็นความเสี่ยงของการรื้อถอนอาคารด้วยวิธีเช่นนี้ หากผู้รับเหมาะคำนวณและควบคุมไม่ดีพอ
การรื้อถอนอาคารอีกวิธี คือ การใช้เครื่องเจาะไฟฟ้า เลาะโครงสร้างคอนกรีตออกทีละน้อย หรือ ในภาษาก่อสร้างเรียกว่า การแย๊ก แม้จะปลอดภัยและควบคุมได้มากกว่า แต่วิธีนี้ไม่นิยม เพราะทำให้การทำงานล่าช้า ผู้รับเหมาะในไทยส่วนใหญ่ จึงเลือกใช้รถแบคโฮ
ส่วนวิธีการระเบิดอาคาร แม้จะตอบทั้งเวลาและความปลอดภัย แต่ในประเทศไทยก็ยังไม่สามารถใช้วิธีการนี้ได้ เพราะนอกจากจะไม่มีบุคลากรที่เชี่ยวชาญพอ กฎหมายก็ยังไม่อนุญาตให้ทำ
ยังดีที่การถล่มระหว่างรื้อถอนอาคารในเมืองพัทยาแห่งนี้ ไม่มีความสูญเสียเกิดขึ้น แต่ข้อจำกัดทั้งในแง่กฎหมายและการผลิตผู้เชี่ยวชาญที่ไม่ทันต่อนวัตกรรม ที่สามารถตอบโจทย์ได้ทั้งความสะดวกในการทำงานและความปลอดภัย ก็ยังทำให้มีความเสี่ยงที่ยังต้องเผชิญและอุบัติเหตุครั้งหน้าก็อาจไม่โชคดีเหมือนเช่นคราวนี้
เกศินี เขียนวารี รายงาน