นักวิชาการทางทะเล เสนอหยุดท่องเที่ยวดำน้ำ รักษาแนวปะการัง


โดย PPTV Online

เผยแพร่




แนวปะการังในประเทศไทยเสียหายเป็นจำนวนมาก หลังเกิดปรากฎการณ์ปะการังฟอกขาวครั้งใหญ่ในปี 2553 ทำให้เหล่านักวิชาการทางทะเล ศึกษาเก็บข้อมูลเพื่อ พิจารณาปิดจุดดำน้ำที่มีแนวปะการัง ให้ปะการังได้ฟื้นตัวและอยู่รอด

วันนี้ (3 เม.ย. 59) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นักวิชาการทางทะเลศูนย์วิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งทะเลอันดามัน เข้าสำรวจแนวปะการังและเก็บข้อมูล โดยทำต่อเนื่องยาวนานกว่า 6 ปี หลังแนวปะการังฝั่งอันดามันกว่าร้อยละ 90 เสียหายจากปรากฎการณ์ฟอกขาวครั้งใหญ่เมื่อปี 2553

การเก็บข้อมูลมาตลอด 6 ปี ทำให้ได้รับข้อมูลที่มากพอจะเสนอให้กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง นำไปพิจารณาปิดจุดดำน้ำที่มีแนวปะการัง เพื่อให้ปะการังได้ฟื้นตัวแข็งแรงและอยู่รอด

จากการสำรวจฝั่งทะเลอันดามัน พบว่า จุดที่ควรจะปิด 32 จุด กระจายตามแหล่งท่องเที่ยวสำคัญไม่ว่าจะเป็นหมู่เกาะพีพี จังหวัดกระบี่ เกาะสำคัญๆในจังหวัดภูเก็ต หมู่เกาะสุรินทร์ จังหวัดพังงา และหมู่เกาะตะรุเตา หลีเป๊ะ อาดังราวี จังหวัดสตูล โดยแบ่งตามคุณภาพของปะการัง ซึ่งปะการัง ที่ยังคงมีคุณภาพดีส่วนใหญ่อยู่ในจังหวัดสตูล

ทั้งนี้ ปัจจัยที่นักวิชาการใช้เป็นหลักเกณฑ์พิจารณาเสนอปิดจุดดำน้ำมี 22 ปัจจัย ที่เกี่ยวข้องกับความอุดมสมบูรณ์ของปะการัง เพื่อวัดศักยภาพการฟื้นตัว หากเกิดกรณีปรากฎการณ์ปะการังฟอกขาวขึ้น หรือถูกรบกวนจากปัจจัยอื่นเช่นการท่องเที่ยว

ปัจจุบันสถานภาพและคุณภาพแนวปะการังของไทยทั้งฝั่งอันดามันและอ่าวไทย มีพื้นที่รวม 148,954 ไร่ อยู่ในสภาพสมบูรณ์ดีมากรวมกันเพียงร้อยละ2 คุณภาพดี ร้อยละ3.7 คุณภาพปานกลาง ร้อยละ15.9 เสียหาย ร้อยละ28.3 และร้อยละ50.1 เสียหายมาก


PR - ตารางคะแนน-2_B PR - ตารางคะแนน-2_B
TOP ประเด็นร้อน
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ