วันนี้ (5 เม.ย. 2559) นางออง ซาน ซูจี ปฏิบัติหน้าที่ในฐานะรัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศ โดยได้เชิญ นายหวัง อี้ รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศของจีน มาร่วมหารือที่กรุงเนปิดอว์
สำหรับเมียนมาร์ความสัมพันธ์กับจีนถือเป็นเรื่องหนึ่งที่สำคัญที่สุด ในการดำเนินนโยบายต่างประเทศ เพราะนอกจากจีนจะเพื่อนบ้านและคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดของเมียนมาร์แล้ว ยังมีประเด็นสงครามบริเวณชายแดน ซึ่งจีนถูกกล่าวหาว่าปล่อยให้กลุ่มกบฏเคลื่อนไหวในพื้นที่ฝั่งของตน และหลับหูหลับตากับการลักลอบค้ายก ยาเสพติด และไม้ ซึ่งเป็นชนวนที่ทำให้เกิดสงคราม รวมถึงโครงการเมกะโปรเจกต์ที่มีกรณีพิพาทกัน เช่น โครงการสร้างเขื่อนในรัฐคะฉิ่นที่จีนสนับสนุน แต่ถูกรัฐบาลของอดีตประธานาธิบดีเต็ง เส่ง สั่งระงับไปตั้งแต่ปี 2011
อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์มองว่า การเดินทางเยือนเมียนมาร์ 2 วัน ของนายหวัง เป็นการแสดงท่าทีว่าจีนพร้อมที่จะเดินหน้าขยายความสัมพันธ์ และส่งเสริมความร่วมมืออย่างจริงจังกับรัฐบาลใหม่ โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่สหรัฐฯ เองก็หวังที่จะสร้างสัมพันธ์กับเมียนมาร์ที่ค่อยๆ เปิดประเทศมากขึ้นเช่นกัน
ไปดูความเคลื่อนไหวทางฝั่งของ อดีตประธานาธิบดีเต็ง เส่ง ที่หมดวาระไปเมื่อสิ้นเดือนที่ผ่านมา ล่าสุดกระทรวงสารสนเทศของเมียนมาร์ ได้เผยแพร่แถลงการณ์บนเฟซบุ๊คกระทรวง ระบุว่าอดีตผู้นำเมียนมาร์จะบวชเป็นพระภิกษุ ที่สำนักสงฆ์ธรรมาธิบดีใกล้กับเมืองมัณฑะเลย์ เป็นเวลา 5 วัน
ทั้งนี้ อดีตประธานาธิบดีเต็ง เส่ง ไม่เคยเปิดเผยต่อสาธารณะถึงความคิดที่จะบวชพระ แต่จากแถลงการณ์ของกระทรวง ระบุว่า อดีตผู้นำเมียนมาร์ได้คิดถึงเรื่องนี้ ตั้งแต่เดือนมกราคม หลังจากร่วมการประชุมพุทธศาสนาโลก และได้รับคำชักชวนจาก หลวงพ่อสิตะกู ซึ่งอดีตประธานธิบดี เต็ง เส่ง ก็ได้ให้สัญญาว่าจะบวชทันทีหลังจากที่หมดวาระ