ศาลปกครองกลางพิพากษาเพิกถอนคำสั่ง ของอธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ที่ ลงโทษไล่ นายสมศักดิ์ เจียมธีรสกุล อาจารย์ประจำคณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ออกจากราชการ และเพิกถอนคำวินิจฉัยอุทธรณ์ของคณะกรรมการข้าราชการพลเรือนในมหาวิทยาลัย ที่ให้ยกอุทธรณ์ของ นายสมศักดิ์ โดยให้มีผลย้อนหลังไปตั้งแต่วันที่มีคำสั่ง และคำวินิจฉัยดังกล่าวตามคำร้องของ นายสมศักดิ์ ที่ยื่นฟ้องเอาไว้
โดยศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า เมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม 2557 นายสมศักดิ์ ยื่นเรื่องขอไปปฏิบัติงานภายในประเทศ เพื่อเพิ่มพูนความรู้ทางวิชาการเพื่อทำงานวิจัย เรื่อง ปรัชญาประวัติศาสตร์และสังคมของเฮเกล มีกำหนด 1 ปี โดยมีระยะเวลาเริ่มต้นงานวิจัยในวันที่ 1 สิงหาคม 2557 ถึง 31 กรกฎาคม 2558 ตามระเบียบทบวงมหาวิทยาลัย ว่าด้วยการให้ข้าราชการไปปฏิบัติงาน เพื่อเพิ่มพูนความรู้ทางวิชาการ
แม้กรณีนี้อธิการบดีฯ จะยังไม่ได้ลงนามอนุมัติ แต่ก่อนหน้านี้มหาวิทยาลัยฯ มีคำสั่งอนุมัติการไปปฏิบัติงานในลักษณะดังกล่าวมาแล้ว ซึ่งย่อมทำให้ นายสมศักดิ์ เข้าใจว่าสามารถไปปฏิบัติงานได้เลย โดยไม่ต้องรอการอนุมัติจากอธิการบดีก่อน อีกทั้งตามคำสั่งไล่ออกที่พิพาท ระบุให้คำสั่งมีผลนับตั้งแต่วันที่ 19 ธันวาคม 2557 ซึ่งอยู่ในช่วงการทำวิจัย เท่ากับว่า นายสมศักดิ์ ไม่ได้จงใจไม่ปฏิบัติหน้าที่ราชการตามระเบียบ โดยไม่มีเหตุผลอันสมควร ดังนั้น คำสั่งลงโทษไล่ผู้ฟ้องคดีออกจากราชการ และคำวินิจฉัยอุทธรณ์ที่ให้ยกอุทธรณ์ของผู้ฟ้องคดี จึงเป็นคำสั่งที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย
ทั้งนี้ ท้ายคำพิพากษาศาลปกครองกลาง ระบุว่า หากในช่วงระยะเวลาภายหลังวันที่รองอธิการบดีฝ่ายวิชาการ มีคำสั่งยกเลิกการขออนุมัติลาของผู้ฟ้องคดีแล้ว นายสมศักดิ์ยัง คงไม่มาปฏิบัติราชการ และอธิการบดีฯ เห็นว่าเป็นการกระทำที่เป็นการจงใจไม่ปฏิบัติตามระเบียบ หรือละทิ้งหน้าที่ราชการติดต่อในคราวเดียวกัน เป็นเวลาเกินกว่าสิบห้าวันในช่วงเวลาดังกล่าว อันเป็นพฤติกรรมที่เกิดขึ้นใหม่ภายหลังการดำเนินการสอบสวนและการลงโทษในคดีนี้ ก็เป็นเรื่องที่อธิการบดีฯ จะพิจารณาดำเนินการตามกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องต่อไป