มีการคาดการณ์ว่า จำนวนผู้สูงอายุของประเทศไทยจะมีเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากคนไทยมีอายุยืนขึ้น ส่งผลให้คนกลุ่มนี้เสี่ยงต่อโรคที่ตามมาได้ สำหรับวันนี้นอกจากวันสงกรานต์แล้ว ยังเป็นวันผู้สูงอายุอีกด้วย ถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีที่ทุกคนในครอบครัวจะหันมาใส่ใจผู้สูงวัยมากขึ้น
นพ.สุพรรณ ศรีธรรมมา อธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า การพัฒนาด้านการแพทย์ในปัจจุบัน ส่งผลให้คนไทย มีอายุยืนขึ้น โดยจากข้อมูลของสำนักงานสถิติแห่งชาติ มีการคาดการณ์ว่า ในปี 2563 นั้น จะมีผู้สูงอายุเพิ่มขึ้นถึง ร้อยละ 16.8 ของประชากรชาวไทย ซึ่งปัญหาที่จะตามมาคือ โรคต่างๆที่เกิดจากความเสื่อมของร่างกาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งระบบประสาท เนื่องจากสมองของคนเราเป็นอวัยวะที่สำคัญในการควบคุมการทำงานด้านความจำ ความรู้สึกนึกคิด รวมไปถึงอารมณ์และพฤติกรรมด้วย
สำหรับ โดยโรคที่เกี่ยวข้องกับสมองและระบบประสาทที่พบบ่อยและเป็นสาเหตุของความพิการและเสียชีวิตในผู้สูงอายุ คือโรคหลอดเลือดสมองตีบตันหรือแตก สาเหตุเกิดจากหลอดเลือดแดงที่ไปหล่อเลี้ยงสมองตีบตัน ทำให้เนื้อสมองขาดเลือดไปหล่อเลี้ยงส่งผลให้เนื้อสมองตาย หรือหลอดเลือดแดงสมองแตก เลือดที่ออกมาไปกดทับหรือทำลายเนื้อสมอง ทำให้เกิดความพิการทางกายตามมา ซึ่งจะมีอาการเกิดขึ้นเฉียบพลัน ได้แก่ แขนขาอ่อนแรงหรือชาครึ่งซีกด้านหนึ่งด้านใดของร่างกาย พูดไม่ชัด พูดลำบาก พูดไม่ได้ ปวดหัวรุนแรง สูญเสียความรู้สึกตัว เช่น ซึมลง หมดสติ ซึ่งหากผู้สูงอายุมีอาการดังกล่าว บุตรหลานต้องรีบพาไปโรงพยาบาลทันทีไม่เกิน 3 ชั่วโมง เพราะถ้าหากไปโรงพยาบาลล่าช้าอาจเกิดความพิการถาวรได้
ทั้งนี้ ปัจจุบันยังพบกลุ่มผู้สูงอายุป่วยเป็นโรคสมองเสื่อมอัลไซเมอร์มากขึ้น ซึ่งโรคนี้ไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ แต่การตรวจพบในระยะเริ่มต้นจะช่วยชะลอความเสื่อมของสมองได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยปัจจัยเสี่ยงของการเกิดโรคดังกล่าวคือ อายุที่เพิ่มขึ้น พันธุกรรมและสิ่งแวดล้อม โรคนี้ทำให้ความสามารถในการจำและการใช้เหตุผลของผู้ป่วยลดลง หากผู้สูงอายุมีอาการหลงลืม เช่น จำเหตุการณ์หรือคำพูดที่เพิ่งผ่านมาไม่ได้ สับสนเรื่องต่างๆ มีปัญหาการพูด พฤติกรรมที่อาจเกิดปัญหายุ่งยาก เช่น ออกนอกบ้าน กลับบ้านไม่ถูก ก้าวร้าว ไม่สามารถปฎิบัติกิจวัตรประจำวันได้ตามปกติ ควรรีบพาไปพบประสาทแพทย์หรือแพทย์เวชศาสตร์ผู้สูงอายุ
นอกจากนี้การฝึกบริหารสมองเป็นประจำจะลดโอกาสเสี่ยงของการเกิดโรค จึงควรหากิจกรรมฝึกความจำให้แก่ผู้สูงอายุให้ได้ใช้สมองในการทำกิจกรรม เช่น การฝึกถามตอบความรู้ทั่วไป เล่นดนตรีไทย วาดภาพ คิดเลข จะช่วยชะลอความเสื่อมของสมองได้ ทั้งนี้โรคที่เกี่ยวข้องกับสมองและระบบประสาทที่สามารถพบได้บ่อย ได้แก่ โรคลมชัก การนอนหลับผิดปกติ เป็นต้น ซึ่งโรคเหล่านี้มีปัจจัยจากความเสื่อมของร่างกายตามอายุที่มากขึ้น ดังนั้นสิ่งสำคัญคือการดูแลเอาใจใส่ผู้สูงอายุอย่างใกล้ชิด หากมีความผิดปกติให้รีบพาไปพบแพทย์ทันที
อธิบดีกรมการแพทย์ แนะนำว่า ควรให้ผู้สูงอายุรับประทานอาหารให้ครบหมู่ เน้นผลไม้หลากสี เช่น องุ่น บีทรูท มะม่วงสุก แครอท แตงโม กีวี แอปเปิ้ล หมั่นออกกำลังกาย นอนหลับให้เพียงพอ ไม่เครียด มีกิจกรรมนันทนาการในครอบครัว หากผู้สูงอายุเป็นโรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง ควรปฎิบัติตามคำแนะนำของแพทย์