วันนี้ (11 พ.ค. 59) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ได้ตรวจสอบหลักฐานเพิ่มเติม พบว่ากลุ่มกิจการร่วมค้า NVPSKG กับพวก เข้ายึดถือ ครอบครอง และแสวงประโยชน์จากที่ดินสาธารณประโยชน์ที่เป็นคลองสาธารณะที่ลุ่มน้ำทะเลท่วมถึง และเป็นที่ทิ้งขยะของทางราชการ ที่ออกโฉนดมาโดยมิชอบ ซึ่งถือว่าพฤติการณ์กระทำผิดเกี่ยวกับการแสวงหาประโยชน์เกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติหรือสิ่งแวดล้อม ไม่ชอบด้วยกฏหมายมีลักษณะในทางการค้า ถือเป็นความผิดตามมาตรา 3(15) ตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542
โดยสัญญาดังกล่าวเกิดขึ้นจากการทุจริตของอธิบดีและเจ้าหน้าที่ กรมควบคุมมลพิษ ในขณะนั้น สมคบกับกิจการร่วมค้าในทุกขั้นตอน เพื่อเอื้อประโยชน์ให้แก่กลุ่มเอกชนได้เข้ามาเป็นคู่สัญญา เป็นสัญญาที่ขัดต่อความสงบเรียบร้อย เป็นโมฆะตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ทำให้สัญญาดังกล่าวเสียเปล่ามาตั้งแต่ต้น
ทั้งนี้ที่ประชุมคณะกรรมการธุรกรรม จึงมีมติให้อายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดของกลุ่มบุคคลที่มีพฤติการณ์ในการทุจริตและแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบด้วยกฎหมายจากโครงการออกแบบร่วมก่อสร้างระบบรวบรวมและบำบัดน้ำเสียเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดสมุทรปราการ ซึ่งเป็นสิทธิเรียกร้องในหนี้ตามข้อตกลงที่กรมควบคุมมลพิษจะต้องจ่ายให้แก่กลุ่มกิจการร่วมค้า NVPSKG จำนวน 2 งวด จำนวนกว่า 4,761 ล้านบาท และ 32 ล้านเหรียญสหรัฐ