นายวิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการฯธนาคารแห่งประเทศไทย เปิดเผยรายละเอียดในการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน หรือ กนง. ครั้งที่ผ่านมา โดยระบุว่า เศรษฐกิจไทยแม้ฟื้นตัวต่อเนื่อง แต่การฟื้นตัวยังอยู่ในลักษณะค่อยเป็นค่อยไป และมีหลายปัจจัยต้องต้องจับตามอง เช่น ช่วงไตรมาส 1 มีเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นภายในและนอกประเทศ ส่งผลกระทบตลาดเงินตลาดทุนของประเทศ ทำให้สัญญาณบางอย่างแผ่วลง แต่ก็พบว่า ด้านการท่องเที่ยวยังเป็นภาคเศรษฐกิจที่ขยายตัวได้ดี เกินความคาดหมาย มีส่วนช่วยให้เกิดการจับจ่ายใช้สอยในประเทศ
นายวิรไท กล่าวว่า สิ่งที่น่าเป็นห่วงคือปัญหาภัยแล้ง ที่เกิดขึ้นในภาคชนบท ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจค่อนข้างแรง และอาจยาวต่อเนื่องกว่าที่ กนง. ประมาณการไว้ ดังนั้นต้องจับตามองสัญญาณในช่วงต่อไป โดยในวันที่ 16 พฤษภาคมนี้จะมีตัวเลขเศรษฐกิจที่เห็นได้ชัดเจนมากขึ้น โดยสภาพัฒน์จะเป็นผู้เปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจไทยไตรมาสแรก ส่วนที่ กนง.มีมติเอกฉันท์ให้คงดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 1.5%เพราะยังเป็นห่วงเรื่องการลงทุนภาคเอกชนที่ยังอยู่ระดับต่ำ และการบริโภคที่มีสัญญาณอ่อนแรงลง ซึ่งเสี่ยงต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทย
นอกจากนี้ ผู้ว่าการฯ ธปท.เปิดเผยว่า การบริหารอัตราแลกเปลี่ยนมีความสำคัญมากในช่วงนี้ เพราะสภาพคล่องตลาดเงินโลกค่อนข้างสูง นโยบายการเงินของประเทศอุตสาหกรรมหลักๆ อาจมีลักษณะที่ต่างกันมากขึ้น ซึ่งจะส่งผลต่อปริมาณเงินที่ไหลเข้าออกประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ ทำให้เกิดความผันผวนได้สูง จึงอยากเตือนผู้ประกอบการโดยรวม ต้องระวังเรื่องของอัตราแลกเปลี่ยนสามารถผันผวนไปทั้งสองด้าน และมีแนวโน้มผันผวนสูงขึ้น ผู้ส่งออกไม่ควรชะล่าใจและปิดความเสี่ยงน้อยลงในช่วงที่ค่าเงินบาทอ่อนลง