วันนี้ (28 พ.ค. 59) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่าแม้ประเทศไทยจะเข้าสู่ช่วงต้นฤดูฝนแล้ว และหลายพื้นที่เริ่มมีฝนตกกระจาย แต่ส่วนใหญ่ฝนไม่ได้ตกในพื้นที่เหนือเขื่อน ทำให้ปริมาณน้ำไหลเข้าเขื่อนอยู่ในเกณฑ์น้อย จึงไม่สามารถเพิ่มปริมาณน้ำในเขื่อนได้ ซึ่งปัจจุบันมีจังหวัดประกาศเขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติ กรณีฉุกเฉิน (ภัยแล้ง) จำนวน 36 จังหวัด
ทั้งนี้จากการติดตามสภาพอากาศในช่วงฤดูฝนจากกรมอุตุนิยมวิทยา คาดว่า มีแนวโน้มเกิดภาวะฝนทิ้งช่วงในระหว่างปลายเดือนมิ.ย.– ก.ค. 59 จึงขอความร่วมมือทุกภาคส่วนใช้น้ำอย่างประหยัด ส่วนเกษตรกรให้วางแผนการเพาะปลูกพืชให้สอดคล้องกับสถานการณ์น้ำในพื้นที่ รวมถึงเลื่อนการทำนาปีออกไปจนกว่าจะมีฝนตกตามฤดูกาลปกติ
ด้านชลประทานจังหวัดอุทัยธานี ได้แจ้งเตือนเกษตรกรชาวนา ให้ชะลอการทำนาปีออกไปก่อน เพื่อไม่ให้เสี่ยงต่อความเสียหาย เนื่องจากอ่างเก็บน้ำหลักเพื่อการเกษตร 2 แห่ง ของชลประทานอุทัยธานี ทั้งอ่างเก็บน้ำทับเสลา และอ่างเก็บน้ำห้วยขุนแก้ว ไม่มีปริมาณน้ำไหลลงมาเติมอ่างเก็บน้ำแม้แต่น้อย เนื่องจากฝนที่ตกลงมามีปริมาณน้อยทำให้อ่างเก็บน้ำทั้ง 2 แห่ง ยังวิกฤตหนักอย่างต่อเนื่อง
ส่วนที่จังหวัดนครราชสีมา เกษตรกรต่างพากันปรับเตรียมพื้นที่ในการเพาะปลูก เช่น ในพื้นที่ตำบลรังกา อำเภอพิมาย ชาวนาเริ่มปรับหน้าดินที่มีน้ำขัง เพื่อเตรียมหว่านข้าวนาปีในฤดูฝนที่กำลังมาถึงนี้
ขณะที่สำนักงานชลประทานที่ 8 ได้ประชาสัมพันธ์เกษตรกรที่จะทำการเพาะปลูกข้าวนาปีและหว่านข้าวแห้งในช่วงนี้ว่า ขอให้เกษตรกรมีการติดตามข่าวสารจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องถึงปริมาณฝนที่จะตกลงมาในแต่ละพื้นที่ ทั้งนี้เพื่อป้องกันไม่ให้เกษตรกรได้รับความเสียหายจากการปลูกข้าว เนื่องจากปริมาณน้ำที่มีอยู่ภายในเขื่อนระบายน้ำพิมายขณะนี้ มีเพียงพอสำหรับอุปโภคบริโภคและผลิตน้ำประปาเท่านั้น ยังไม่สามารถส่งให้กับภาคการเกษตรได้
