วันนี้ (3 มิ.ย. 59) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางดวงพร รอดพยาธิ์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า วันนี้กรมได้เปิดให้ผู้สนใจเข้าร่วมรับฟังเงื่อนไขการประมูล หรือ ทีโออาร์ ข้าวในสต๊อกรัฐบาล หลังพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี หรือหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ในฐานะประธานกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว (นบข.) ได้เห็นชอบให้เปิดประมูลข้าวสารในสต๊อกรัฐบาลเป็นการทั่วไป ครั้งที่ 4/2559 ปริมาณ 2.24 ล้านตัน เนื่องจากสถานการณ์ราคาข้าวในขณะนี้อยู่ในภาวะขาขึ้นจากปัญหาภัยแล้ง ส่งผลให้ผลผลิตข้าวลดลงและออกสู่ตลาดล่าช้ากว่าปกติ
สำหรับข้าวที่จะนำออกประมูลครั้งนี้มาจาก 173 คลัง ใน 35 จังหวัด รวม 16 ชนิด ตั้งแต่ข้าวหอมมะลิ 100% ชั้น 2 ข้าวหอมจังหวัด ข้าวขาว 5% ข้าวขาว 10% ข้าวขาว 15% ข้าวขาว 25% และอื่นๆ โดยหลังจากนี้จะเปิดให้เข้าดูสภาพข้าวในคลัง ระหว่างวันที่ 6-10 มิ.ย. 59 จากนั้นเปิดยื่นซองคุณสมบัติวันที่ 13 มิ.ย. 59 และประกาศผู้ผ่านคุณสมบัติและเปิดให้ยื่นซองเสนอราคาในวันที่ 15 มิ.ย. 59
ทั้งนี้นายชูเกียรติ โอภาสวงศ์ นายกกิตติมศักดิ์สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย และ ร.ต.ท.เจริญ เหล่าธรรมทัศน์ นายกสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย ต่างเชื่อว่าการเปิดประมูลข้าวล็อตใหญ่ของรัฐบาลครั้งนี้ คือปริมาณสูงถึง 2.4 ล้านตัน ไม่น่าจะกระทบต่อราคาข้าวในตลาดมากนัก เนื่องจากข้าวสต๊อกรัฐเป็นข้าวเก่า แต่ตลาดต่างประเทศขณะนี้ต้องการข้าวใหม่เป็นหลัก
โดยสต๊อกข้าวรัฐบาลที่ได้จากโครงการรับจำนำข้าวตั้งแต่ปี 2554/2555 2555/2556 และ 2556/2557 ในสมัยรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี มีข้าวสะสมอยู่ในสต๊อก 18 ล้านตัน ที่ผ่านมารัฐบาลปัจจุบันได้เปิดประมูลข้าวเป็นการทั่วไปและประมูลข้าวเข้าสู่ภาคอุตสาหกรรมไปแล้วรวมทั้งหมด 15 ครั้ง สามารถขายข้าวได้ 6.12 ล้านตัน มูลค่า 6.4 หมื่นล้านบาท
อย่างไรก็ตามในวันนี้ ต้องจับตาคณะกรรมการองค์การคลัง สินค้า หรือบอร์ด อคส. จะเสนอนางอภิรดี ตันตราภรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เพื่อเผาทำลายมันเส้นและข้าวโพดที่เน่าเสียทั้ง 1.25 แสนตันทิ้ง คาดจะทำให้รัฐเสียหาย 950 ล้านบาท ไม่รวมค่ารักษาและค่าเช่าโกดังช่วง 9 ปีที่ผ่านมา แบ่งเป็น มันเส้น 3.14 หมื่นตัน 150 ล้านบาท และข้าวโพด 9.4 หมื่นตัน 800 ล้านบาท ส่วนค่าเช่าโกดังเก็บมันเส้นจ่ายเดือนละ 11 ล้านบาทด้วย