วันนี้ (14 มิ.ย.59) นายพสิษฐ์ ถาวรล้ำเลิศ ทนายความชาวเลหาดราไวย์ เดินทางไปที่ศาลจังหวัดภูเก็ต พร้อมตัวแทนชาวเลที่เป็นผู้รับมอบอำนาจ 3 คน เพื่อขอแต่งตั้งผู้รับมอบอำนาจฝ่ายโจทย์ ยื่นฟ้องแพ่งบริษัทบารอนเวิล์ดเทรด จำกัด ฐานละเมิด พร้อมเรียกค่าเสียหายประมาณ 5 แสน เนื่องจาก การปิดพื้นที่เข้าออกจุดพิพาททำให้ชาวเลไม่สามารถเข้าไปนำเรือไปประกอบอาชีพได้ รวมถึงการให้ชายฉกรรจ์เข้ามาในพื้นที่พิพาททำให้ชาวเลหลายคนได้รับบาดเจ็บจากการปะทะกัน
นอกจากนี้ ยังขอให้ศาลคุ้มครองพื้นที่พิพาทชั่วคราว เนื่องจากกังวลว่า อาจเกิดการเผชิญหน้ากันระหว่างคนของทั้ง 2 ฝ่ายอีก เบื้องต้นทนายความ ระบุว่าศาลนัดไต่สวนสอบพยานอีกครั้งในวันที่ 15 ส.ค. และ 22 ส.ค.นี้
สำหรับพื้นที่พิพาทดังกล่าว คือ จุดที่ชาวเลใช้เป็นทางสาธารณะเพื่อเดินไปยังจุดจอดเรือ และสุสานบรรพบุรุษ หรือ บาลัย แต่พื้นที่นี้อยู่ในโฉนดของบริษัทบารอนฯ ทำให้ที่ผ่านมาเกิดคำถามว่า แท้จริงแล้ว ใครเข้าอยู่อาศัยในพื้นที่แถบนั้นก่อน ซึ่งหากดูข้อมูลที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ ซึ่งPPTVติดตามและนำเสนอมาตลอด จะทำให้ทราบว่า มีหลักฐานหลายอย่างที่ระบุว่า ชาวเลเข้าอยู่อาศัยก่อนการออกเอกสารสิทธิ์ สค.1ฉบับแรกปี 2497
นอกจากนี้ คณะทำงานชุดของพล.อ.สุรินทร์ พิกุลทอง ประธานคณะกรรมการแก้ไขปัญหาความมั่นคงในที่อยู่อาศัย พื้นที่ทำกิน และพื้นที่ทางจิตวิญญาณของชุมชนชาวเล ซึ่งเป็นชุดที่รัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ตั้งขึ้น ทำข้อมูลและยืนยันว่า ข้อพิพาทที่เกิดขึ้น เกิดจากการออกเอกสารสิทธิ์ทับพื้นที่ที่มีคนอาศัยอยู่ก่อนแล้ว ถือเป็นความผิดของเจ้าหน้าที่รัฐในสมัยนั้น ซึ่งเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา คณะทำงานชุดนี้ส่งเรื่องให้รัฐบาลเพื่อขอให้ซื้อที่ดินคืนจากบริษัทบารอนฯ เนื่องจากเอกชนก็ซือที่ดินต่อมาถูกต้อง และเรื่องนี้เป็นความผิดพลาดของเจ้าหน้าที่รัฐตั้งแต่ปี2497