เร่งรวบรวมหลักฐานและดีเอ็นเอในจุดเกิดเหตุรุนแรง 7 จว.ใต้


โดย PPTV Online

เผยแพร่




เริ่มมีความชัดเจนแล้วสำหรับเหตุระเบิดและเพลิงไหม้ในพื้นที่  7 จังหวัดภาคใต้ ล่าสุดตำรวจเร่งรวบรวมหลักฐานและดีเอ็นเอในจุดเกิดเหตุ ส่งกองพิสูจน์กลางตรวจสอบพบมีความเชื่อมโยงกัน

วันนี้ (14 ส.ค. 2559) เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบในร้านทวีสินพลาสติก ถนนกาญจนวิถี อำเภอเมืองสุราษฎร์ธานี ที่เกิดเพลิงไหม้อีกครั้ง เพื่อหาพยานหลักฐานเพิ่มเติม ซึ่งเชื่อว่าจะมีความเชื่อมโยงกับเหตุการณ์ลอบวางระเบิด 2 จุดในเมืองสุราษฎร์ธานี เบื้องต้นพบชิ้นส่วนโทรศัพท์ จำนวน 2 ชิ้น จึงเก็บไว้ตรวจสอบ ขณะเดียวกันยังได้นำภาพวงจรปิดจากจุดเกิดเหตุและบริเวณใกล้เคียง มาตรวจสอบหาตัวผู้ต้องสงสัย และจะเชิญพนักงานที่ทำงานก่อนวันเกิดเหตุ มาสอบปากคำเพื่อหาความผิดปกติ

ส่วนเหตุเพลิงไหม้ภายในห้างสรรพสินค้าเทสโกโลตัส สาขานครศรีธรรมราช ในวันนี้ห้างยังคงปิดให้บริการ โดยมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยกระจายกำลัง ดูแลพื้นที่ และห้ามบุคคลภายนอกเข้าใกล้

การสืบสวนในเชิงลึกของหน่วยงานด้านความมั่นคง พบข้อมูลว่าทีมก่อเหตุแบ่งออกเป็น 2 ทีมคือทีมวางระเบิด และทีมวางเพลิง เริ่มต้นจากจังหวัดภูเก็ต พังงา ตรัง นครศรีธรรมราช และสุราษฎร์ธานี ทั้งหมดเป็นทีมเดียวกันและมีความเคลื่อนไหวรวมตัวกันก่อนหน้านี้ ที่อำเภอฉวาง จังหวัดนครศรีธรรมราช

กรณีศาลจังหวัดนครศรีธรรมราช อนุมัติหมายจับ นายศักรินทร์ คฤหัส ชาวอำเภอสันกำแพง จังหวัดเชียงใหม่ ข้อหาวางเพลิงเผาทรัพย์ที่เป็นโรงเรือนอันเป็นที่เก็บหรือทำสินค้าแล้ว 1 ราย แต่ยังให้การปฏิเสธ

ด้าน ตำรวจสถานีตำรวจภูธรเขาหลัก จังหวัดพังงา พร้อมชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด ประชุมหารือความคืบหน้า เหตุระเบิดบริเวณตลาดนัดบางเนียง โดยจากการตรวจสอบพบว่า ระเบิดทั้ง 2 ลูก ถูกตั้งเวลาให้ทำงานวันที่ 12 สิงหาคม แต่การจุดระเบิดไม่สมบูรณ์ จึงไม่ได้สร้างความเสียหาย ขณะนี้เจ้าหน้าที่พบผู้ต้องสงสัยแล้ว 3 คน อยู่ระหว่างรวมหลักฐาน เพื่อขออนุญาตศาลออกหมายจับตัวมาดำเนินคดีต่อไป

เช่นเดียวกับจังหวัดกระบี่ เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบร้านจำหน่ายสินค้าที่ระลึก บริเวณหน้าหาดอ่าวนาง เพื่อหาหลักฐานเชื่อมโยงกับเหตุไฟไหม้ที่ตลาดนัดบางเนียง จังหวัดพังงา

พลตำรวจเอกพงศพัศ พงษ์เจริญ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ระบุว่า เจ้าหน้าที่เร่งรวบรวมพยานหลักฐาน พยานวัตถุ และพยานบุคคลไว้แล้ว ซึ่งอยู่ระหว่างนำหลักฐานทั้งหมดเข้ามาตรวจสอบ หาจุดเชื่อมโยงที่กองพิสูจน์หลักฐาน และนำดีเอ็นเอในจุดเกิดเหตุ เข้ามาตรวจสอบร่วมกับฐานของตำรวจ เพื่อหาตัวผู้ก่อเหตุ

ส่วนระเบิดที่ใช้ก่อเหตุมีรูปแบบและวิธีการทำคล้ายกัน เชื่อว่าจะเป็นคนกลุ่มเดียวกัน มีผู้สั่งการ และจัดหาระเบิดมาให้ผู้ก่อเหตุ ซึ่งเจ้าหน้าที่มีฐานข้อมูลของทุกกลุ่มอยู่แล้ว หากได้ตัวผู้ทำความก็จะสามารถขยายผลหาผู้สั่งการได้ และการก่อเหตุในครั้งนี้ไม่ใช่การขยายพื้นที่การก่อความไม่สงบของ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้

TOP ประเด็นร้อน
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ