วันนี้ (1 ต.ค. 59) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายคมสัน โพธิ์คง อาจารย์นิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต ระบุว่า การสื่อสารของนายวิษณุ ที่ขู่ใช้ มาตรา 44 ยุบสภา เป็นการส่งสัญญาณ ไปยังพรรคการเมือง ให้จับมือกับ “วุฒิสภา” ผลักดันคนนอกเป็นนายกรัฐมนตรี หลังการเลือกตั้งปี 60 เพื่อให้บรรลุเป้าหมายการถือครองอำนาจช่วงเปลี่ยนผ่าน 5 ปี
นายคมสัน ระบุว่า ให้จับตาพรรคการเมืองที่จะเป็นผู้ประสานงานจัดตั้งรัฐบาล ซึ่งถือว่าเป็นตัวแปรที่จะมากำหนดทิศทางการเมืองในอนาคต
ส่วนที่พรรคประชาธิปัตย์ นายราเมศ รัตนะเชวง รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงประเด็นที่นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ระบุว่า หากการเลือกตั้งมีปัญหาหรือใช้เวลานานสามารถใช้อำนาจมาตรา 44 ยุบสภาได้นั้น นายราเมศมองว่าค่อนข้างไม่เหมาะสมเพราะรัฐบาลควรเคารพเสียงข้างมากและคนที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชนตามกระบวนการเลือกตั้งในรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ และอาจเป็นการเดินหน้าประเทศไปในทิศทางที่ทหารกำหนดไว้
สำหรับการแก้ไขร่างพ.ร.บ.จัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ แม้ว่าจะอยู่ระหว่างการแก้ไขและพิจารณาของสนช. แต่ที่ผ่านมาไม่เคยมีตัวแทนของสนช.หรือคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญหรือกรธ. ออกมาชี้แจงว่าปรับแก้ไปแล้วในส่วนใดบ้างทั้งที่เป็นเรื่องที่สังคมจับตามอง