“ยิ่งลักษณ์” รับปากชาวนากลับมาเป็นรัฐบาล จะช่วยให้ราคาข้าวสูงขึ้น (คลิป)

วันนี้ (3 พ.ย. 59 ) น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เดินทางไปยังจังหวัดอุบลราชธานีเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา และได้พบกับชาวนาอำเภอเดชอุดม อำเภอม่วงสามสิบ อำเภอเหล่าเสือโก้ก อำเภอเขื่องใน และอำเภอเมือง ที่นำข้าวหอมมะลิสีเอง มาขายหน้าโรงเรียนเทศบาล 3 สามัคคี ตำบลในเมือง อำเภอเมืองอุบลราชธานี กิโลกรัมละ 20 บาท 

ชาวนากลุ่มนี้เล่าให้น.ส.ยิ่งลักษณ์ฟังว่า หากไม่สีข้าวมาขายเอง และนำข้าวเปลือกไปขายให้กับโรงสีในพื้นที่จะได้เพียงกิโลกรัมละ 7 บาทเท่านั้น  อดีตนายกรัฐมนตรีก็ได้ช่วยซื้อข้าวไปจำนวนหนึ่ง และรับปากว่า หากมีโอกาสกลับมาเป็นรัฐบาล จะช่วยผลักดันราคาข้าวของชาวให้สูงขึ้นอีกครั้ง

สำหรับการเดินทางของน.ส.ยิ่งลักษณ์มาที่จังหวัดอุบลราชธานีวันนี้ มี ส.ส.และสมาชิกพรรคเพื่อไทยในพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานีมาต้อนรับที่สนามบิน ก่อนจะพามาพบกับชาวนากลุ่มนี้

นอกจากจังหวัดอุบลราชธานี วันนี้อดีตนายกรัฐมนตรีหญิง ยังเดินทางไปพบกับชาวนาในหลายจังหวัดที่ภาคอีสาน เช่น ศรีสะเกษ สุรินทร์ และมีชาวนาให้กำลังใจลักษณะนี้ จนทำให้นางสาวยิ่งลักษณ์กลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่

ด้าน พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ออกแถลงการณ์ถึงกระแสข่าวนี้ว่า รัฐบาลดูแลชาวนามาตามขั้นตอนอยู่ จึงไม่ได้สนใจเหตุการณ์อื่น โดยเฉพาะการสร้างภาพกลบเกลื่อนความผิดของนักการเมือง  

ด้าน ความในใจของนายมานัส กิจประเสริฐ อดีตนายกสมาคมโรงสีข้าวไทย ที่ประกาศยุติบทบาทหน้าที่พร้อมกับคณะกรรมการทั้งหมดกว่า 20 คนในวันนี้ พวกเขาให้เหตุผลว่า ที่ผ่านมาทางสมาคมได้รายงานปัญหารวมถึงความเดือดร้อนของชาวนาไทยให้รัฐบาลทราบแล้ว แต่ท้ายที่สุดสมาคมโรงสีข้าวไทยก็ไม่สามารถช่วยเหลือชาวนาให้ได้ราคาข้าวเปลือกตามที่คาดหวัง จึงขอลาออกเพื่อแสดงความรับผิดชอบ

ส่วนเรื่องที่นายกรัฐมนตรีกล่าวหาว่าโรงสีร่วมมือกับนักการเมืองกดราคาข้าว เพื่อสร้างเงื่อนไขให้เกิดความขัดแย้ง อดีตนายกสมาคมโรงสีข้าวไทยระบุว่า ไม่กล้าน้อยใจพลเอกประยุทธ์และยังเคารพเหมือนเดิม แต่ยืนยันว่าการกำหนดราคารับซื้อเป็นไปตามกลไกตลาดที่ผู้ส่งออกกำหนดมา  

ขณะที่นายวิโรจน์ ณ ระนอง ผู้อำนวยการวิจัยด้านเศรษฐศาสตร์สาธารณสุขและการเกษตร TDRI ให้ความเห็นว่า สาเหตุที่ข้าวมักจะถูกหยิบยกมาข้องเกี่ยวกับเงื่อนไขทางการเมืองนั้นเป็นเพราะว่า ปัจจุบันประเทศไทยมีชาวนาอยู่มากถึง 1 ใน 6 ของประเทศ ดังนั้นนี่จึงถือเป็นฐานเสียงที่สำคัญของรัฐบาลทุกยุคสมัย

ส่วนปัญหาราคาข้าวตกต่ำขณะนี้ ผู้อำนวยการวิจัยด้านเศรษฐศาสตร์สาธารณสุขและการเกษตร TDRI ระบุว่า ภาคส่งออกยังถือว่าไปได้ดี แต่ในอนาคตรัฐบาลที่เข้ากำหนดนโยบายข้าว ก็ควรช่วยเหลือโดยการพัฒนาพันธุ์ข้าวและหาแนวทางลดต้นทุนการผลิตมากกว่านโยบายแก้ปัญหาเฉพาะหน้าเหมือนที่ผ่านมา