หลังผู้สื่อข่าวรับแจ้งว่ามีเจ้าหน้าที่ของกรมศุลกากร ได้ทำการยึดรถยนต์ยี่ห้อออสติน มินิคูเปอร์ ไว้และได้เกิดมีปากเสียงกับทางเจ้าของรถครอบครอง อยู่ที่ สภ.เมืองชุมพร จึงเดินทางไปตรวจสอบ
พบรถยนต์ยี่ห้อออสติน มินิคูเปอร์ ตัวรถสีฟ้า หลังคาสีขาว หมายเลขทะเบียน กค 5834 ชุมพร จอดอยู่บริเวณด้านหน้าของ สภ.เมืองชุมพร ส่วนบนโรงพักพบ
นายพงศ์ธร พันธ์รักษ์เดชา อายุ 36 ปี กำลังโต้แย้งกับทางนายณรงค์ธัช บำรุงธรรม ตำแหน่งนักวิชาการศุลกากรชำนาญการ และเจ้าหน้าที่กรมศุลกากร หลังจากที่ทางเจ้าหน้าที่ของกรมศุลกากร ได้ยึดรถออสตินคันดังกล่าวไว้ โดยอ้างว่า จะนำไปตรวจสอบเนื่องจากได้รับแจ้งจากสายว่ารถคันนี้เป็นรถผิดกฎหมาย ที่สวมทะเบียนคันอื่น
โดยนายพงศ์ธร พันธ์รักษ์เดชา เจ้าของรถออสติน เปิดเผยว่า เมื่อปี 2554 ตัวเองได้ซื้อรถคันดังกล่าวมาจากนายรัฐศักดิ์ พงษ์ศักดิ์ขจร อายุ 32 ปี โดยขณะนั้นรถคันนี้เดิมเป็นสีดำ คาดขาว เป็นเงินจำนวน 3 แสน 5 หมื่นบาท และมีเอกสารการซื้อขายและโอนอย่างถูกต้องตามกฎหมาย และใช้รถมาเกือบ 7 ปี และมีการต่อทะเบียนทุกปี จนกระทั่งเมื่อประมาณต้นปี เห็นว่ารถอยู่ในสภาพเก่ามาก ประกอบกับต้องการขาย จึงได้นำรถไปทำสีใหม่ โดยเปลี่ยนใหม่เป็นสีฟ้า คาดขาวบนหลังคา และกำลังจะนำไปจดเสียภาษีของปี 2559 ที่พักทำสีและต่อภาษีของ 2560 พร้อมแจ้งเปลี่ยนสีใหม่ ซึ่งก็จะทำตามระเบียบกฎหมายทุกอย่าง
จนกระทั่ง ทางกรมศุลกากร ชุดดังกล่าว ได้โทรมาในลักษณะติดต่อจะขอซื้อ โดยนัดออกมาพบกันริมถนนบริเวณใกล้ศูนย์ราชการ แต่พอตนเองได้นำรถพร้อมนำเอกสารมาให้ดู ชุดนี้ก็แสดงตนว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของกรมศุลกากร พร้อมอ้างว่ารถคันดังกล่าวเป็นรถผิดกฎหมาย ที่ลักลอบนำเข้าและมาสวมทะเบียน จึงขอยึดรถไว้เพื่อนำไปตรวจสอบที่กรมศุลกากร ทั้งนี้ ยืนยันว่าทุกอย่างทำถูกต้องตามกฎหมาย จึงให้มาลงบันทึกที่ สภ.เมืองชุมพร ไว้ก่อน พร้อมเรียกร้องขอความเป็นธรรมในเรื่องนี้
ขณะที่เจ้าหน้าที่กรมศุลกากร ชี้แจงว่า มีผู้แจ้งทางกรมว่ารถคันดังกล่าวมีการสวมทะเบียน เรื่องที่มีการซื้อขายและมีเอกสารนั้น ต้องให้ทางเจ้าของไปดำเนินกับทางผู้ขายและฟ้องร้องกับทางสำนักงานขนส่งเอง ทางกรมฯจะไม่ก้าวล่วงไปในหน่วยงานอื่น จะดำเนินการเฉพาะงานที่เกี่ยวข้องของกรมเท่านั้น ว่านำเข้าโดยเลี่ยงภาษีศุลกากรหรือไม่
