วันนี้ (3 มี.ค. 60) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายขจรศักดิ์ มโนทรัพย์ศักดิ์ ผู้จัดการทั่วไปอินทรีมอร์ตาร์ บริษัท ปูนซีเมนต์นครหลวง จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ตลาดปูนมอร์ตาร์ในประเทศไทยโดยภาพรวมในปี 60 มีแนวโน้มขยายตัวสูงขึ้นจากการผลักดันโปรเจกต์ต่าง ๆ ของทางภาครัฐ เช่น ด้านคมนาคมขนส่ง ระยะเร่งด่วนปี 60 ระยะที่ 2 ทั้งระบบราง ถนน ทางน้ำและทางอากาศ จำนวน 36 โครงการมูลค่ามากกว่า 895,000 ล้านบาท สะท้อนจากยอดขาย 2 เดือนแรกของปี 60 ที่ขยายตัวสูงขึ้นประมาณ 10% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันกับปีก่อน และคาดว่าตลาดวัสดุก่อสร้างตลอดทั้งปี 60 ยังสามารถเติบโตได้ถึง 1-3% หรือมีมูลค่าตลาดประมาณ 400,000 ล้านบาท
ส่วนสถานการณ์ธุรกิจวัสดุก่อสร้างในปี 60 เชื่อว่าจะมีการแข่งขันรุนแรงกว่าทุก ๆ ปีที่ผ่านมา เนื่องจากทุกบริษัทต่างเห็นตลาดมีโอกาสขยายตัวสูงในบางพื้นที่จากปัจจัยบวก ทั้งการลงทุนเมกะโปรเจกต์ของรัฐบาล ทำให้โครงการของภาคเอกชนขยายตัวเพิ่มขึ้นด้วย ประกอบกับกำลังซื้อของกลุ่มผู้ที่ซื้อรถคันแรกที่ปลดภาระหนี้สินเรียบร้อยแล้ว และราคาพืชผลการเกษตรบางชนิดที่มีราคาสูงขึ้น
นายขจรศักดิ์ กล่าวว่า บริษัทจะขยายตลาดกลุ่มประเทศเพื่อนบ้านอาเซียน โดยคาดว่าจะเติบโตตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ ซึ่งปีที่ผ่านมากลุ่มประเทศเพื่อนบ้านมีอัตราการใช้ปูนซีเมนต์เติบโตเกือบทุกประเทศโดยเฉพาะประเทศเมียนมาที่มีการขยายการลงทุนสร้างอาคารมากขึ้น
ขณะที่ตลาดปูนมอร์ตาร์ หรือปูนสำเร็จรูป พบว่ามีการเติบโตประมาณ 7% หรือมูลค่าตลาดประมาณ 750 ล้านบาท ในปี 59 และคาดว่าจะขยายตัวสูงขึ้นเป็น 8% หรือประมาณ 800 ล้านบาท โดยปี 60 ในกลุ่มลูกค้าภาคเอกชนของอินทรีมอร์ตาร์ ทั้งกลุ่มโครงการที่อยู่อาศัยและอาคารพาณิชน์ ทั้งแนวราบและแนวสูง มีแผนเปิดโครงการใหม่มากขึ้น โดยเฉพาะเกรดพรีเมี่ยมและซูเปอร์ลักชัวรี่ และเนื่องจากปูนมอร์ตาร์เป็นปูนสำเร็จรูป ซึ่งจะช่วยลดระยะเวลาและลดต้นทุนการผลิต อาจส่งผลให้ราคาขายของโครงการต่าง ๆ ปรับตัวลดลงตามความเหมาะสม
อย่างไรก็ตาม บริษัทเตรียมทุ่มงบประมาณ 800 ล้านบาท ขยายฐานการผลิตจากเดิม 3 ไลน์การผลิต โดยมีกำลังผลิตอยู่ที่ 750,000 ตันต่อปี เพิ่มเป็น 4 ไลน์การผลิต ในอีก 1-2 ปีข้างหน้า ซึ่งจะเพิ่มขึ้นกว่า 600,000 ตันต่อปี
